นพ.ประยูร เจนตระกูลโรจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิวหนังอโศก แสดงความห่วงใยกระแสการบริโภคกลูตาไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้ว กลูตาไธโอน เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ และได้มีการสกัดขึ้นเพื่อใช้ช่วยผู้ป่วยในการรักษาโรคต่างๆ อาทิ พิษสุราเรื้อรัง หอบหืด มะเร็ง ต้อกระจก ลดอาการข้างเคียงจากยารักษามะเร็ง รวมทั้งผู้ป่วย HIV/AIDS ที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหาร และผลข้างเคียงของการให้สารกลูตาไธโอนคือทำให้ผู้ป่วยขาวขึ้นได้ชั่วคราว กล่าวคือสารส่งผลต่อการทำงานของเซลล์เม็ดสี ( Melanocytes ) จึงมีผู้นำมาใช้โดยต่างวัตถุประสงค์ออกไปโดยตัวสารกลูตาไธโอนแล้ว ไม่ได้มีอันตรายต่อร่างกายหากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม คือไม่ควรเกิน 60 มิลลิกรัมต่อวันโดยการรับประทาน แต่โดยการฉีดจะต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น เพราะหากฉีดด้วยตนเองอาจทำให้เกิดอาการช็อค ( Anaphylactic Shock ) อันเนื่องจากสารปนเปื้อน ซึ่งทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต นอกจากนั้น การรับสารกลูตาไธโอนอาจมีผลข้างเคียง เนื่องจากเซลล์เม็ดสีไม่ได้มีอยู่เพียงในเฉพาะผิวหนัง แต่ยังพบใน เซลล์รากผม ตา เยื่อหุ้มสมอง หู ดังนั้น การได้รับสารกลูตาไธโอนที่มากเกินไป จึงอาจมีผลต่อการทำงานของเซลล์เหล่านี้ เช่น ประสิทธิภาพของตาในการทำงานภายใต้ภาวะแสงแดดจ้าลดลง
ผลของการรับสาร คือ ผิวที่ขาวขึ้นนั้น จะขาวเฉพาะในช่วงเวลาที่บริโภค เพราะสารกลูตาไธโอนจะไม่ถูกสะสมในร่างกาย คือหากต้องการขาวด้วยวิธีนี้จะต้องบริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้สิ้นเปลืองไม่จบสิ้น