ขับรถระวังช่วงหน้าฝน


ประเทศไทยอยู่ในส่วนของโลกที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อย สาวๆ หลายท่านที่ขับรถควรจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือแม้แต่ไม่ได้ขับเองแต่ว่ามีสารถีหนุ่มหล่อเป็นผู้คุมพวงมาลัยให้ ก็ควรเป็นที่ปรึกษาที่ดีช่วยกันดูแลยานพาหนะที่ใช้และขับขี่อย่างถูกต้อง ก็จะทำให้ชีวิต (ทั้งของตัวเอง และผู้ร่วมทางอื่นๆ) มีความสุขและปลอดภัยค่ะ

ในช่วงหน้าฝน ถนนหนทางหลายเส้นมีสภาพที่ผิดไปจากที่เคยเป็น จากการที่มีฝุ่นมากก็กลายเป็นเปียกแฉะ สายตาที่เคยมองเห็นถนนได้อย่างชัดเจนวันอากาศสดใสก็แย่ลงเพราะเม็ดฝนปกคลุมและบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ วิศวกรผู้ออกแบบรถยนต์ก็ได้พยายามใส่เครื่องช่วยการขับขี่ในทุกสภาวะมาให้แล้ว คราวนี้ก็เป็นเรื่องของเราที่จะต้องดูแลให้อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นทำงานได้ดีได้ถูกต้องตามที่ได้รับการออกแบบมาแล้วล่ะค่ะ

1. เช็คสภาพและลมยาง

ยาง เป็นเพียงสิ่งเดียวที่รถยนต์สัมผัสกับพื้นถนน (เอาล่ะ ถ้าตะแคงข้างหรือหงายท้องอยู่ เราก็คงไม่ต้องอธิบายถึงเรื่องตอนนี้แล้วล่ะค่ะ) ถนนบางเส้นนั้นลื่นมาก ลื่นขนาดที่ว่าถ้าเราใส่รองเท้าฟองน้ำลงไปเดินยังไม่แน่ใจว่าจะลื่นล้มเมื่อไร ประสาอะไรกับรถยนต์ที่มีจุดสัมผัสด้วยหน้ายางเท่านั้น แถมเมื่อฝนตก น้ำฝนจะทำตัวเป็นสิ่งกีดขวางระหว่างผิวหน้ายางกับพื้นถนนที่แท้จริง คราวนี้ความลื่นก็จะมาเยือนแล้ว ยางรถยนต์จึงถูกออกแบบมาให้มีร่องยางเพื่อเป็นบริเวณที่ให้โอกาสน้ำฝนหลีกหนีเข้าไปหลบอยู่ได้ในขณะที่ล้อและยางกำลังหมุนเบียดลงไปกับพื้นถนน ทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มที่ เกิดแรงเสียดทานและไม่ลื่นไถล ถ้าแรงดันลมไม่เหมาะสมและ/หรือร่องยางตื้นเขินเกินไปไม่เพียงพอต่อปริมาณน้ำจะไปหลบอยู่ ก็จะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นควรต้องเช็คทั้งสภาพยางและแรงดันของลมยางให้ถูกต้องนะคะ

2. ระบบเบรคก็สำคัญ

ถึงยางจะดีแต่ถ้าระบบเบรคไม่ดี ลื่นเมื่อโดนน้ำ หรือผ้าเบรคหมด น้ำมันเบรคขาด หม้อลมรั่ว แบบนี้คงหยุดรถได้ยาก ควรนำรถเข้าอู่ให้ช่างที่ไว้ใจได้ตรวจสอบดูระบบเบรคว่าทำงานปกติหรือไม่ ผ้าเบรคหมดหรือใกล้หมดหรือเปล่า ถ้าใกล้แล้วก็คงต้องจัดการเปลี่ยนเสียก่อนเพราะเราคงไม่อยากให้มันไปหมดตอนเข้าด้ายเข้าเข็มหรอก ส่วนน้ำมันเบรคก็คงอยู่ในมาตรฐานที่ต้องตรวจสอบให้ด้วยค่ะ

3. เปลี่ยนยางใบปัดน้ำฝนให้เรียบร้อย

ความสามารถในการมองเห็นเป็นเรื่องจำเป็นมากในการขับรถ ไม่เชื่อก็ลองหลับตาขับรถ หรือปิดไฟหน้าในตอนกลางคืนในถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่างข้างทางดูสิคะ (พูดเล่นแต่อย่าลองจริงๆ นะคะ อันตรายมาก) กระจกหน้ารถขณะที่ฝนตกก็เช่นกัน ทัศนวิสัยหดหายไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่เมื่อเราเปิดเครื่องปัดน้ำฝนให้ทำงาน แต่ถ้ายางใบปัดน้ำฝนหมดสภาพด้วยแล้วล่ะก็ คงจะมองเห็นให้ถนัดได้ยากมาก ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ให้ลองแวะร้านประดับยนต์หรืออู่รถยนต์ที่ไว้ใจได้ ให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนให้ เปลี่ยนตอนที่เป็นหน้าฝนนี่ล่ะค่ะ จะได้ใช้ตลอดหน้าฝน แล้วก็ควรเปลี่ยนประมาณปีเว้นปีนะคะ ของพวกนี้ไม่ได้มีอายุงานนานเท่าไรหรอกค่ะ

4. วางแผนการเดินทาง

ก่อนออกเดินทางก็ควรวางแผนให้ดี ถ้าสามารถหลบหลีกฝนได้จะเป็นการดีที่สุด หรือหากหลบหลีกไม่ได้ก็ควรเช็คเส้นทางของเราและของฝน ว่าจะพบเจอกันที่ไหนหรือหลีกเลี่ยงอย่างไรได้บ้าง อย่างน้อยเจอฝนน้อยก็ย่อมดีกว่าเจอฝนมากจริงไหมคะ นอกจากนั้นแล้วยังมีถนนบางเส้นทางที่จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยเป็นพิเศษว่ามีความลื่นผิดปกติหรือไม่ (เช่น ถนนพระรามที่สอง ถ้าฝนตกจะลื่นมากๆ เป็นต้น) นอกจากนั้นก็ควรเตรียมอุปกรณ์ประจำรถในการซ่อมแซม หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินต่างๆ (ทางการเดินทาง, ทางการซ่อมแซมรถ, ทางด้านการแพทย์) และชาร์จโทรศัพท์ให้เต็มก่อนการเดินทางค่ะ

ขอให้เพื่อนๆ เดินทางปลอดภัย ไปไหนมาไหนด้วยความสนุกสนานตลอดหน้าฝนนี้และต่อๆ ไปนะคะ