ในขณะที่สาวๆ หลายๆ คนมีปัญหาเรื่องที่ผิวมันเกินไปแต่สาวๆ บางคนอาจจะมีปัญหาเรื่องของผิวแห้งเกินไปก็ได้ นับว่าเป็นความไม่พอดีที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งสิ้น โดยทั่วไปแล้วผิวหนังที่ดีจะต้องประกอบไปด้วยน้ำที่ทำให้ผิวผุดผ่องและน้ำมันจากต่อมน้ำมันตามสมควร (เน้นว่าตามสมควรนะคะ เพราะว่าถ้ามากเกินไปก็จะกลายเป็นผิวมัน) โดยที่น้ำมันตามพอดีก็จะทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวหนังด้วย การที่มีน้ำและน้ำมันน้อยเกินไปก็เรียกว่า "ผิวแห้ง" ผิวที่แห้งเกินไปจะมีปัญหาหลักอยู่สองสามประการคือมีรูขุมขนแคบไม่สามารถเก็บความชิ้นไว้ได้ อาจจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย และหากผิวแห้งมากๆ ก็จะทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนังได้อีก เราลองมาทำความเข้าใจผิวแห้งมากกว่านี้เพื่อที่จะได้ดูแลผิวพรรณได้ถูกต้องกันดีไหมคะต้นเหตุของผิวแห้ง
โดยทั่วไปแล้ว ชั้นด้านนอกสุดของหนังกำพร้าคือสตราตัม คอร์เนียม (Stratum corneum) จะมีความชิ้นอยู่ประมาณ 30% เมื่อไรก็ตามที่ผิวชั้นนี้มีปริเมาณน้ำต่ำกว่า 10% ก็จะเกิดการแห้งของผิวขึ้น ทำให้ผิวแตก เป็นขุยได้ แต่เอาล่ะค่ะ ทั้งที่ส่วนมากแล้ว การที่ผิวแห้งนั้นก็มักจะไม่ใช่ความผิดของเรา คือส่วนมากแล้วเราก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เกิดผิวแห้ง แต่ว่ามันแห้งของมันเอง แต่เพื่อที่จะแก้ไขได้ง่ายขึ้น เราลองมาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิวแห้งกันบ้างดีกว่าว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง
1. ต่อมไขมันไม่สามารถผลิตน้ำมันให้กับผิวได้เพียงพอ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย
2. ผิวกระทบต่อสภาพอากาศที่ทำให้เสียความชุ่มชื้นได้มาก เช่น อยู่กลางแดดจัด หรือสัมผัสกับอากาศที่แห้งในหน้าหนาว
3. ผิวแห้งอาจจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมได้เช่นกัน
4. รับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดวิตามินเอและวิตามินบี
5. ผิวสัมผัสกับลมแรง, สารเคมีบางอย่าง, เครื่องสำอางบางชนิด หรือแม้แต่การอาบน้ำมากและบ่อยเกินไปด้วยสบู่แรงๆ
6. มีสภาวะบางอย่างกับผิวเช่น เป็นโรคผิวหนังอักเสบ, เป็นโรคเรื้อนบางชนิด, โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น
7. เกิดจากยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยารักษาสิวบางอย่าง
8. การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง เช่นใช้ครีมบำรุงผิวผิดวิธี
การดูแลผิวแห้ง
เมื่อเราได้รู้แล้วว่า ผิวแห้งเกิดจากอะไร คราวนี้เราก็มาดูกันว่าถ้าเราผิวแห้งแล้วเราจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้สภาพผิวของเราไม่แย่ลงไปกว่าเดิม หรือแม้แต่สามารถแก้ไขสภาพผิวได้ดีขึ้นด้วย ด้านล่างนี้เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อทำให้ผิวแห้งของเราไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ
1. ดื่มน้ำเยอะๆ
2. ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ห้ามเปิดให้ร้อนจัดเพราะน้ำที่ร้อนจะทำให้ผิวแห้งกว่าปกติมากยิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือต้องอยู่ห่างเรื่องของการอบซาวน่าไปด้วยเลยนะคะ
3. ในเวลาเช้าควรล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น ถ้าให้ดดีได้น้ำแร่งยิ่งดี ต้องระวังน้ำกระด้างให้มากและอย่าใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรงเพราะจะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม ใช้เพียงสบู่อ่อนๆ และฟอกเพียงครั้งเดียวก็พอ
4. นำโลชั่นสำหรับเด็ก (Baby oil) ผสมลงในน้ำสุดท้ายสัก 4-5 หยดแล้วอาบ ก่อนจะเช็ดตัว
5. ทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ จากนั้นจึงทาครีมกันแดด
6. ระหว่างวัน ให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีแดดและลมแรง ทั้งสองอย่างนี้ทำให้ผิวแห้งกร้าน และพกโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นติดตัวไว้ หากรู้สึกว่าผิวแห้งเมื่อไรก็นำขึ้นมาทาผิวเลย
7. หลีกเลี่ยงยาแก้หวัด ยาแก้แพ้ เพราะอาจจะทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้น
8. ก่อนนอน อย่าลืมทาทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งอีกครั้งหนึ่ง
9. รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอและวิตามินบี หรือจะรับประทานวิตามินโดยตรงเลยก็ได้
10. ถ้าเป็นนักกีฬายิ่งดีเลยค่ะ ถือว่าเป็นโชค การออกกำลังกายให้เหงื่อออกจะช่วยปรับสมดุลได้มาก
เป็นอย่างไรคะ ไม่ยากเลยสำหรับการจัดการและอยู่ร่วมกันกับผิวแห้ง ผู้เขียนเองสมัยที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ เคยพบกับอากาศที่แห้งมากจนผิวแห้งแตกในบางจุดและเกิดอาการคันมาก ก็รอดมาได้ด้วยการใช้โลชั่นที่ถูกต้อง และการดูแลตัวเองตามข้อต่างๆ ด้านบนนี้ล่ะค่ะ
