ประเภทของผิวและสีผิว


เราคงเคยสังเกตกันนะคะว่า คนที่ต่างเชื้อชาติกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจากคนละทวีปกันเลยนั้น มักจะมีสีผิวที่ต่างกันมากมาย ทั้งนี้เหตุผลหลักก็เป็นเพราะพันธุกรรมนั้นแตกต่างกัน ทำให้มีองค์ประกอบของเม็ดสีและสภาพต่างๆ ที่ชั้นผิวหนังต่างกัน ทำให้มีสีผิวที่แตกต่างกัน มากไปกว่านั้น ลักษณะของผิวก็ยิ่งต่างกันไปอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว การจัดแบ่งสีผิวของคนเรา (Skin type classification) ของผู้คนต่างๆ ในโลกนี้ ในทางผิวหนังแบ่งออกได้ดังนี้

ผิวแบบที่ 1
ลักษณะ: ผิวขาวซีด อ่อนบาง ตากแดดแล้วผิวไหม้ง่ายมาก
ไม่มีสีแทนหรือคล้ำ เช่น กลุ่มคนเผือก

ผิวแบบที่ 2
ลักษณะ: ผิวขาวอมชมพู อ่อนบาง ตากแดดแล้วผิวไหม้ง่าย
มีสีแทนหรือคล้ำได้เล็กน้อย

ผิวแบบที่ 3
ลักษณะ: ผิวขาวปนเหลือง ตากแดดแล้วบางครั้งผิวใหม้
มีสีแทนหรือคล้ำได้แต่ก็ต้องใช้เวลา เช่นลูกครึ่ง เอเชีย-ยุโรป

ผิวแบบที่ 4
ลักษณะ: ผิวเหลือง ตากแดดแล้วผิวใหม้ได้บ้างแต่น้อย
มีสีแทนหรือคล้ำได้เสมอๆ เช่น กลุ่มชนเอเซียตอนบน เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี

ผิวแบบที่ 5
ลักษณะ: ผิวคล้ำ ผิวสองสี ตากแดดแล้วผิวใหม้ได้น้อยมาก
มีสีผิวคล้ำและดำในบางที่ เช่น กลุ่มชนเอเซีย อเมริกาใต้ ไทย มาเลเซีย เม็กซิโก สเปน

ผิวแบบที่ 6
ลักษณะ: ผิวดำ ตากแดดแล้วผิวไม่เคยใหม้
มีสีผิวดำสนิท เช่น กลุ่มชนผิวดำจากประเทศแถบแอฟริกาใต้

สีผิวผิดปกติบางจุด

โดยปกติแล้ว สีผิวบนใบหน้าจะสม่ำเสมอไปทั่วๆ ใบหน้า แต่ในบางทีสีในบางแห่ง อาจจะมีความเข้มมากกว่าที่อื่น ซึ่งอาจเป็นได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเป็นสาเหตุโดยภาวะการณ์ หรือด้วยโรคบางชนิดก็ได้ สำหรับสาวไทยส่วนมากแล้ว สีผิดปกติที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าก็คือสีคล้ำดำเป็นบางบริเวณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดรอยเข้ม หรือรอยดำ จะขึ้นอยู่กับเม็ดสีเมลานิน (ซึ่งมีสีดำ คล้ำ) เป็นหลัก โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ

1. มีการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติในบางจุด การเพิ่มขึ้นนี้อาจจะมาจากการถูกกระตุ้นโดยแสงแดด หรือรอยดำจากการอักเสบ (post-inflammatory hyperpigmentation) เช่นการกดหรือบีบสิว (ดังนั้นเมื่อเป็นสิว สาวๆ จึงไม่ควรไปกดหรือบีบจนเกิดแผลลึก) หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด ทำให้มีการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ปกติจะอยู่ในชั้นหนังกำพร้ามากกว่าปกติ กลายเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า เป็นต้น
2. มีการสะสมของเม็ดสีเมลานิน ที่อาจจะเกิดจากการที่มีการสร้างคีราติน (keratin) มากขึ้น หรือคีราตินหลุดลอกช้ากว่าปกติ เช่นการเกิดภาวะผิวหนังหนาผิดปกติในเด็กดักแด้ หรือการเกิดกระเนื้อ (Seborrheic keratosis) ในผู้สูงอายุ เป็นต้น
3. จำนวนของเซลล์เมลาโนไซต์ (melanocyte) ที่สร้างเม็ดสีเมลานินมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณของเมลานินเพิ่มขึ้น (ยิ่งเพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งมีแนวโน้มจะคล้ำลง) โดยอาจจะอยู่เฉพาะในหนังกำพร้าหรือหนังแท้หรือทั้ง 2 ที่เลยก็ได้ อาจจะทำให้เกิดกระ (freckle) หรือขี้แมลงวัน (lentigo) ได้

เป็นอย่างไรบ้างคะ เรื่องของลักษณะสีผิว และความผิดปกติของสีผิวนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเราเข้าใจมัน ไม่ว่าสีผิวจะขาวมาก ขาวน้อย คล้ำไปบ้าง หรือคล้ำบางจุด ทุกสิ่งนั้นย่อมมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น และส่วนมากมักจะสามารถแก้ไขได้หากเราต้องการล่ะค่ะ