ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาได้


การทำงานของเราทุกวันนี้ นอกจากความจำ ความรู้ ความชำนาญหรือทักษะในงานแล้ว เรายังต้องการความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างงานใหม่ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเพื่อให้เราสามารถทำงานหนึ่งๆ ได้ง่ายขึ้นหรือเพื่อการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ในเมื่อความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างนี้ เราก็อย่าปล่อยให้สมองตื้นกันอยู่ แต่มาทำให้สมองแล่นด้วยความคิดใหม่ๆ ดีกว่าค่ะ

คนกับความคิดสร้างสรรค์

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นของเฉพาะตัว บางคนก็มีบางคนก็ไม่มี ในทางหนึ่งคำพูดนั้นก็อาจจะเป็นจริง แต่เป็นจริงเพราะคนบางคนมีลักษณะนิสัยตามปกติที่เอื้ออำนวยให้เขาคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าอีกคนหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าคนคนหนึ่งไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ในเวลาหนึ่งๆ แล้ว จะไม่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมให้ดีขึ้นได้

ทำอย่างไรถึงมีความคิดสร้างสรรค์

ในเมื่อเราบอกว่าเราสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์กันได้ เราจึงรวบรวมเอาลักษณะการคิดที่เป็นนิสัยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มาไว้ที่นี้ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ลองทำ (ต้องทำทุกข้อนะคะ ไม่ใช่เลือกทำโดยไม่ครบ) กันค่ะ

1. เปิดสายตาให้กว้างและเรียนรู้ทุกวัน
ทุกวันที่เราเห็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ต้องหมั่นสังเกตว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ทำไมเป็นอย่างนี้ เป็นอย่างอื่นได้ไหม ทำวิธีอื่นได้ไหม ทำอย่างนี้แล้วทำไมต้องไปเป็นอย่างนั้นแต่เป็นอย่างอื่นก่อนได้หรือไม่ ต้องคิดเสมอว่าทุกอย่างนั้นมีวิธีทำได้มากกว่าหนึ่งวิธี และยังมีวิธีอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทดลองทำ

2. เชื่อมความคิดและบันทึกความเป็นไปได้ (และยังไม่ได้)
เมื่อเรารู้จักสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ความคิดต่างๆ จะรวมตัวตกผลึกเข้าด้วยกันและสร้างช่องทางอื่นในการทำงานหรือทำสิ่งใดๆ ขึ้นมา ความคิดหลายอย่างที่ผุดขึ้นนั้นอาจจะมีอุปสรรคในด้านความเป็นไปได้ในปัจจุบันเช่น มีเงินไม่มากพอ มีเวลาไม่มากพอ มีคนไม่มากพอ มีวัสดุที่มีคุณภาพไม่ได้ดังที่ต้องการ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น อย่าได้ทำนิ่งเฉย ลืมมันไป และเสียกำลังใจว่าคิดไปก็ทำไม่ได้ แต่กลับจะต้องจดบันทึกเอาไว้ว่าเราคิดอะไรได้ ตอนนี้ "ยัง" ทำไม่ได้เพราะอะไร เพราะอุปสรรคในวันนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ง่ายๆ สบายๆ ในอนาคตก็ได้ ดังนั้นจะต้อง "จดบันทึก" ไว้ก่อน

3. แบ่งปันความคิดให้กับนักคิดคนอื่น
บางครั้งเมื่อคิดไม่ออก การแบ่งปันสิ่งที่เราคิดให้กับเพื่อนที่เป็นนักคิดคนอื่น และสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยพัฒนาความคิดที่เกิดขึ้นให้แตกยอดต่อไป บางครั้งการคิดอะไรได้อย่างหนึ่งแต่ไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไร ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นเมื่อมีคนอื่นมาช่วยคิด ตัวอย่างจริงก็มีให้เห็นกับกาวที่ติดอะไรแล้วก็ไม่ยอมแห้ง ซึ่งสุดท้ายก็ถูกนำมาใช้ทาด้านหลังของกระดาษจดบันทึกขนาดเล็กพวก stick-it นั่นเอง

อย่าลืมนะคะ ไม่กี่ข้อด้านบนนี้ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะลองฝึกทำดูได้เลย ไม่แน่นะคะเพื่อนๆ อาจจะกลายร่างเป็นสาวไอเดียบรรเจิดเพริดพริ้งจนคนอื่นต้องทึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้ค่ะ