จากบทความที่ผ่านมาเรื่อง การป้องกันสิวด้วยการกำจัดแบคทีเรีย เราได้ทราบว่าแบคทีเรียเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดสิว แบคทีเรียที่เข้าไปย่อยไขมัน ซากเซลล์ผิวหน้าที่ตายแล้วและตกค้างอยู่ในรูขุมขน ทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น ในความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำให้รูขุมขนไม่ตันและเซลล์ไม่ตายอยู่ตลอดเวลา (เพราะเซลล์ผิวหนังของคนเรานั้นผลัดกันตายอยู่ตลอดเวลาไงคะ) ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำได้ง่ายกว่าก็คือการกำจัดแบคทีเรียให้หมดไป ซึ่งดูเหมือนจะง่ายกว่า ในปัจจุบันมีหลายวิธีที่ใช้ในการกำจัดแบคทีเรีย ทั้งยาทาและสารเคมีต่างๆ ซึงหลายชนิดก็ทำให้เกิดผลติดตามมาเช่น ทำให้ผิวบางลง แพ้ง่าย เกิดอาการแพ้ระคายเคือง แต่ก็ยังมีอีกวิธีในการกำจัดแบคทีเรียได้โดยไม่มีผลข้างเคียงเหล่านั้น ลองมาดูกันนะคะว่ามันคืออะไรโชคดีที่วิทยาการได้ล้ำหน้าไป จนนักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์แหล่งกำเนิดแสงที่เรียกว่าแสงสีน้ำเงิน (Blue Light) เพื่อใช้ในการกำจัดแบคทีเรียบนผิวหน้า การใช้แสงสีน้ำเงินในการฆ่าแบคทีเรียทั้งหลายนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัย อ่อนโยน ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวและสามารถป้องกันการเป็นสิวได้ (เพราะเราได้กำจัดสาเหตุหลักหนึ่งของการเป็นสิว ซึ่งก็คือแบคทีเรียไงคะ) แสงสีน้ำเงินที่มีความยาวคลื่นระหว่าง 415-445 นาโนเมตรจะทะลุลงไปในชั้นผิวหนังและจัดการกับแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของสิว (Propionibacteria acne หรือ P. acne) ในขณะที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมผลิตน้ำมันให้ทำงานได้เป็นปกติ เป็นการจัดการกับปัญหาเรื่องสิวอย่างแท้จริง
การป้องกันสิวที่ต้นเหตุด้วยการใช้แสงสีน้ำเงินไปกำจัดแบคทีเรียนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง โดยบางผู้ผลิตอ้างว่าการใช้งาน 3-4 ครั้งสามารถกำจัดแบคทีเรียออกไปได้กว่า 99% ถ้าสาวๆ ต้องการทดลองก็คงต้องหาเครื่องมือจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองนะคะ อาจจะเป็นองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ก็ได้ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถป้องกันสิวได้ที่ต้นเหตุและไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมี ก็เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่คอยสร้างความงามให้กับสาวๆ เอามาเล่าสู่กันฟังไว้ก่อนค่ะ
