ผิวแบบไหนเลือกมาส์กอย่างไร


มาส์คหน้านั้นเป็นเครื่องช่วยบำรุงผิวที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีในการบำรุงให้ผิวอยู่ในสภาพดีรวมทั้งฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดพิษที่คั่งค้างอยู่ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่การเลือกนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะง่ายนักเพราะราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ในบทความนี้เราจะมาดูการเลือกกันนะคะ

1. มาส์คสำหรับผิวแห้งและไวต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับคนที่มีผิวแห้ง หรือผิวที่ไวต่อสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่างๆ ได้ง่ายแล้วล่ะก็ ต้องหันไปหามาส์คที่ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นหลักเท่านั้น พยายามหาสูตรที่เป็นครีมเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวของเรา แทนที่จะเป็นสูตรโคลนหรือ clay หรือสูตรที่มีอิทธิฤทธิ์ในการลอกผิวและไปทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองมากขึ้นไปอีก และถ้าใครชอบผสมมาส์คใช้เองล่ะก็ อย่าลืมใส่โยเกิรตกับน้ำผึ้งลงไปด้วย โดยเอนไซม์ในโยเกิร์ตจะทำหน้าที่ช่วยลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาอย่างนุ่มนวลในขณะที่ไม่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของผิวลงไปอีกด้วย

2. มาส์คสำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย
เรื่องสิวนี้ดูเหมือนพูดถึงทีไรก็หงุดหงิดทุกที นี่ขนาดไม่ได้เป็นเองนะคะ แต่กับเพื่อนสาวๆ ที่เป็นสิวได้ง่ายแล้วอาจจะต้องลองคบกับมาส์คหน้าที่มีสูตรน้ำมันสักหน่อย พูดไปก็เหมือนหนามยอกเอาหนามบ่งนั่นล่ะค่ะ เพราะการไปพยายามทำให้ผิวหน้าปราศจากน้ำมันในคนที่มีผิวมันและเป็นสิวง่ายนั้น จะยิ่งไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานผลิตน้ำมันขึ้นมามากกว่าเดิม การใช้มาส์คที่มีส่วนผสมของน้ำมันนั้นดูจะช่วยสร้างสมดุลที่ดีกับต่อมไขมันของเรา และช่วยให้สิวลดลงได้ และถ้าเราต้องการทำความสะอาดรูขุมขน ก็อาจจะเลือกมาส์คแบบโคลนหรือเจลก่อนโดยอาจจะผสมน้ำมันลงในมาส์คนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานก็ได้

3 ผิวมัน
สาวสวยผิวมันทั้งหลายฟังทางนี้ค่ะ พวกเราจะต้องหันไปหามาส์คที่มีสูตรที่ช่วยลอกหรือกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป (exfoliating) มาส์คแบบโคลน (clay) ถือว่าเหมาะอย่างยิ่งกับผิวมันเพราะช่วยทำความสะอาดและดึงเอาความสกปรกออกมาจากผิว มาส์คบางแบบอาจจะมีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งจะมีผลในการทำให้ใบหน้านุ่มนวลแต่แห้งลง (และผิวก็ผลิตน้ำมันออกมาชดเชย ยุ่งเหมือนเดิม) ดังนั้นจึงควรตามด้วยมาส์คที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยทิ้งไว้ขั้นตอนละ 10-15 นาทีเพื่อให้โอกาสผิวซึมซับสวนประกอบที่ดีเข้าไปค่ะ

4 ผิวผสม
ผิวผสมก็ต้องดูแลแบบผสมๆ กันถึงจะดี ประมาณว่าตรงไหนเป็นผิวแห้งก็ดูแลแบบผิวแห้ง ตรงไหนมันก็ดูแลแบบผิวมัน เช่นใช้มาส์คหน้าแบบโคลนกับผิวบริเวณทีโซน (หน้าผาก, จมูก-สันจมูก ซึ่งมักเป็นบริเวณที่มีผิวมัน) และมาส์คหน้าชนิดที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวกับบริเวณอื่นที่เหลือ แหม ยุ่งหน่อยนะคะแต่เพื่อความสวย ต้องสู้ค่ะ

การเลือกมาส์คหน้า

เมื่อเราต้องการเลือกใช้มาส์คหน้าสักชิ้นหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะเลือกได้เลยจากที่มีวางขาย เพราะคงต้องพิจารณาสิ่งประกอบก่อนจะเลือกซื้อ เช่น
  • ต้องรู้จักชนิดของผิวของเรา เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาเพราะเราได้พูดถึงกันมาแล้ว
  • ดูวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ด้วย ควรจะเหลือมากพอที่เราจะใช้ได้หมดก่อน
  • มาส์คหน้าที่ราคาต่ำ อาจจะมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายผสมอยู่
  • จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง หรือได้รับการจดแจ้งว่าปลอดภัยเท่านั้น
แถมอีกนิดว่า ไม่ว่าคุณสาวๆ จะใช้มาส์คแบบไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือขั้นตอนในการใช้งาน นั่นคือควรอบผิวหน้าสักครู่ก่อนการใช้ ไม่ว่าจะด้วยการอังผิวหน้ากับไอน้ำอุ่น หรือการใช้ผ้าอุ่นๆ ชุบน้ำแล้ววางไว้บนผิวหน้าสักครู่ ความร้อนจะช่วยทำให้เศษสิ่งสกปรกบนผิวหน้าและในรูขุมขนอ่อนตัวลง และหลังจากการใช้มาส์คที่บำรุงหรือทำความสะอาดผิวแล้วก็ควรตามด้วยมาส์คที่ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นลำดับต่อไป และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ อย่าลืมมาส์คบริเวณคอของคุณๆ ด้วยนะคะ เพราะนอกจากเราจะเสนอหน้าให้คนอื่นเห็นแล้ว จริงๆ เราก็ยังเสนอคอให้เขาเห็นด้วยเช่นกันค่ะ