ฟิลเลอร์ได้ผลจริงหรือ



หลังจากที่เราได้แนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันในบทความที่แล้วในเรื่อง ฟิลเลอร์คืออะไร คราวนี้คงเป็นเรื่องที่สาวๆ หลายคนสนใจกันมากไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยหรือสาวมากก็ตามนะคะ คือ เมื่อทำการฉีดสารฟิลเลอร์ต่างๆ แล้ว จะได้ผลดีหรือไม่อย่างไร

ผลของการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สารฟิลเลอร์มีหลายประเภท มีที่มาต่างกันตั้งแต่สารที่สร้างขึ้นในห้องทดลองไปจนกระทั่งสารที่สกัดมาจากคนเราเอง ซึ่งทำให้ตัวฟิลเลอร์เองมีตั้งแต่แตกต่างจากความเป็นมนุษย์เอามากๆ จนกระทั่งใกล้เคียงมนุษย์เอามากๆ ด้วย ผลของการฉีดก็จะมีความแตกต่างออกไป แต่โดยหลักการแล้วผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจะคงผลอยู่ได้ในระดับหลายสัปดาห์จนกระทั่งประมาณหนึ่งปี ซึ่งในการฉีดเพื่อได้ผลดีและคงผลไว้ก็อาจจะต้องมีการฉีดในปริมาณน้อยๆ จำนวนหลายครั้ง ซึ่งจะขึ้นกับความลึก ขนาด และลักษณะของรอยเหี่ยวย่นที่ต้องการจัดการ

ตัวอย่างระยะเวลาที่มีผล

ดังที่ได้บอกไว้แล้วว่า ฟิลเลอร์มีหลายชนิดมากซึ่งก็จะให้ผลในระยะเวลาที่ต่างกัน ไม่ช้าก็เร็ว ร่างกายของเราก็จะดูดซึมฟิลเลอร์ไป ซึ่งจะทำให้ผิวกลับไปอยู่ในสภาพก่อนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปนั่นเอง

• คอลลาเจนจากวัว (เช่น Zyplast, Zyderm) มีผลอยู่ประมาณ 2-3 เดือน
• คอลลาเจนแบบของมนุษย์ที่สร้างได้ในห้องปฏิบัติการ (เช่น CosmoDerm, CosmoPlast) มีผลประมาณ 2-4 เดือน
• สารประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) (เช่น Restylane, Juvederm, Captique) มีผลประมาณ 9-12 เดือน
• คอลลาเจนมนุษย์ที่มาจากเนื้อเยื่อของคน (เช่น Cymetra) มีผลประมาณ 3-4 เดือน
• เซลล์ไขมันที่ทำการเพาะมาจากร่างกายของคนๆ นั้น สามารถมีผลได้หลายเดือนจนถึงหลายปีเลยทีเดียว
• โพลีเมอร์แบบสลายตัวได้ที่ได้รับการสังเคราะห์ขึ้น (เช่น Sculptra) อาจจะมีผลได้ถึง 2 ปี
• แคลเซียมไฮดรอกซิลอะพาไทท์ (calcium hydroxylapatite เช่น Radiesse) มีผลประมาณ 12 เดือน

ความเสี่ยง

แหม จะสวยทั้งทีก็ต้องคิดมากหน่อยนะคะในเมื่อมีความเสี่ยงเกี่ยวพันอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามดูไปแล้วก็ไม่หนักหนาสาหัสพอที่จะขัดขวางความอยากสวยของสาวๆ เราได้หรอก แม้จะมีรายงานอาการที่น่าเป็นห่วงมากเช่นอาการช็อค อาการติดเชื้อในกระแสเลือด จ้ำเลือดในลูกตา (อันเป็นสาเหตุให้ตาบอด) เนื้อเยื่อบางส่วนตาย ฝี แต่ก็มีจำนวนน้อยมากๆ โดยความเสี่ยงตามปกติ (ที่ไม่เป็นอันตราย) ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฉีดสารฟิลเลอร์ก็มีอยู่บ้างเช่น

• การติดเชื้อ อาจจะทำให้เกิดการบวม แดง หรือเจ็บบ้างในวันแรก ให้ปรึกษาแพทย์และอาจจะต้องได้รับยาปฏิชีวนะด้วย
• เลือดออกหรือมีรอยช้ำ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีการงดการใช้แอลกอฮอล์และงดยาที่ทำให้เลือดจางลง รวมทั้งแอสไพรินและยาแก้อักเสบในกลุ่ม NSAID หรือวิตามินอีด้วย
• การแพ้ เช่น เป็นผื่นคัน อาการคล้ายลมพิษ บวม หรืออาการเหมือนมีไข้
• ผิวมีลักษณะเป็นก้อนแข็งหลังการฉีด

หวังว่าบทความนี้คงทำให้เพื่อนๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์เพิ่มขึ้น และสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องและดียิ่งขึ้น ซึ่งวิทยาการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ก่อนการตัดสินใจควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่งเสมอค่ะ