เคล็ดลับผิวนุ่มชุ่มชื้นในสิบวัน


สำหรับสาวๆ เกือบทุกคนแล้ว การมีผิวพรรณนวลนุ่มชุ่มชื้นย่อมเป็นที่ปรารถนาอย่างมากมายจริงไหมคะ แต่ดูเหมือนจะยากเย็นแสนเข็นเสียเหลือเกินกว่าจะได้ความเนียนนุ่มนั้นมาครอบครอง เพราะเมื่อนึกถึงผิวพรรณนวลนุ่มชุ่มชื้นครั้งใด ก็นึกได้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงแพงๆ สปาสุดหรู หรือหลายอย่างผสมปนกัน สุดท้ายแค่คิดก็ผอมแล้ว (คือคงจะหมดเงินไปกับของเหล่านั้นจนเหลือสำหรับสรรพาหารน้อยลงไปมาก)

แต่จริงๆ แล้วสาวๆ ทราบหรือไม่คะว่า การจะมีผิวพรรณที่ชุ่มชื้นและเรียบเนียนนั้นไม่ได้ยากมากขนาดนั้น เพียงแต่ต้องทำการดูแลในหลายด้านสักหน่อย เริ่มกันตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอก ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน แต่ถ้าทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดี รับรองว่าไม่อยากกว่าที่คิดและเหลือเงินสำหรับรับประทานอะไรอร่อยๆ ได้อีกมากเลย มาลองดูกันดีกว่านะคะว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง

1. น้ำคือชีวิต

ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำเป็นจำนวนมาก น้ำนี้เองที่เป็นต้นสายแห่งความชุ่มชื้นทั้งหลายในร่างกายของเรา สาวที่อยากมีผิวพรรณเต่งตึงชุ่มชื้นจะต้องมีน้ำอยู่ข้างกายเสมอนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ตื่นนอน การรับประทานน้ำสะอาดสัก 3-4 แก้วจะทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสว่างใสขึ้น ในตอนกลางวันก็เช่นกัน จะต้องไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะนั่นเป็นเหตุให้ผิวต้องขาดน้ำไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยต้องดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน รวมความแล้วก็คือทั้งวันควรดื่มน้ำราวๆ 6-8 แก้วค่ะ

2. อากาศดีคือยา

หลังจากตื่นนอนตอนเช้าและดื่มน้ำเข้าไปแล้ว ก็เป็นเวลาที่ต้องให้ร่างกายและผิวได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ อากาศตอนเช้าก่อนที่รถราจะเริ่มวิ่งและติดขัดอุดมไปด้วยออกซิเจน ลองออกไปเดินเล่นเพื่อรับอากาศสดใสยามเช้าสัก 10-15 นาที ออกซิเจนนอกจากจะฆ่าเชื้อโรคได้หลายชนิดแล้ว ยังมีผลต่อผิวพรรณโดยตรงด้วย เพราะจะทำให้ผิวกลับมาดูสดใส สำหรับสาวๆ ที่ต้องทำงานในห้องปรับอากาศทั้งวัน ลองหาเวลาออกมาเดินชมสวนในช่วงกลางวันบ้าง แต่ก็ต้องไม่ลืมพยายามหลีกเลี่ยงฝุ่นควันจากรถหรือโรงงานต่างๆ
ด้วยนะคะ

3. อาบน้ำให้ผิว

หลังจากเดินเล่นเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาอาบน้ำของสาวๆ ก่อนที่จะทำอย่างอื่นต่อไป น้ำที่ดีควรเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ แต่หากมีเครื่องทำน้ำอุ่นก็เป็นที่แน่นอนว่าใช้ได้ แต่ไม่ควรเปิดน้ำให้มีอุณหภูมิสูงหรือร้อนเกินไป การอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นไม่ควรใช้เวลานานเกิน 10 นาที นอกจากนั้นก่อนที่จะเสร็จสิ้นการอาบน้ำ สาวๆ ควรปิดรายการด้วยการอาบด้วยน้ำเย็นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการปิดรูขุมขนไม่ให้สิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปวุ่นวายได้ง่าย

4. ทาครีมได้บ้าง

ช่วงเวลาหลังการอาบน้ำนี้เอง เป็นช่วงที่เลือดกำลังหมุนเวียนเป็นอย่างดี จึงเป็นเวลาที่เหมาะมากในการทาครีมบำรุงต่างๆ หลังจากเช็ดตัวให้หมาดดีแล้วก็ทาด้วยโลชั่นที่สาวๆ ชอบโดยการทาและนวดที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งจะทำให้โลชั่นซึมลงผิวได้ดีเป็นพิเศษค่ะ

5. แสงแดด

แสงแดดนั้นก็เหมือนดาบสองคม แสงแดดมีคุณและโทษกับผิวของเราเช่นเดียวกันกับอย่างอื่น การได้รับแสงแดดเล็กน้อยในช่วงเช้านั้นเป็นประโยชน์กับสุขภาพ ทำให้ร่างกายสร้างวิตามินดีซึ่งเป็นประโยชน์กับกระดูกและฟัน แต่ในช่วงกลางวัน แสงแดดที่มีทั้งรังสียูวีเอและบีที่ส่องลงมากระทบกับผิวของสาวๆ ตรงๆ นานๆ นั้นย่อมไม่ดีแน่ ดังนั้นหากจะต้องออกไปอยู่กลางแจ้ง จะต้องป้องกันตัวเองให้ดีจากแสงแดดด้วยนะคะ

6. กินดีและอย่าเครียด

อาหารสำหรับผิวที่ดีก็คืออาหารที่สมดุลทั้ง 5 หมู่ แต่สิ่งที่อยากจะเน้นสำหรับสาวไทยอย่างเราก็คือเรื่องของผักและผลไม้ ในหนึ่งวันเราควรทานผักและผลไม้ให้ได้ในปริมาณ 1/3 - 1/2 ของอาหารอื่นๆ ที่เรารับประทานเข้าไป นอกจกนั้นสิ่งที่ไม่ควรทำก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่ควรทำ การนอนดึก ปาร์ตี้ยาวนาน และโดยเฉพาะการสูบบุหรี่นั้นเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวพรรณที่สดใสเลยเชียว สุดท้ายก็ต้องมานั่งเครียดว่าผิวจะสวยหรือเปล่า โดยที่ความเครียดก็ทำตัวเป็นผู้ช่วยศัตรู ยิ่งทำให้ผิวหมองคล้ำหนักไปอีกค่ะ

7. ก่อนนอนยังต้องห่วงสวย

หลังจากวุ่นวายกับภารกิจประจำวันมาทั้งวัน ก่อนนอนก็อย่าลืมทาครีมบำรุง โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศในขณะนั้นด้วย ครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นที่เหมาะกับหน้าร้อนและหน้าหนาวนั้นก็ไม่เหมือนกันนะคะ เช่นหน้าร้อนอาจจะเลือกครีมที่มีเนื้อบางเบาสักหน่อย ส่วนหน้าหนาวก็เลือกที่มีเนื้อครีมเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมอีกนิด หรือมีส่วนผสมของเอสเซนเชียลออยล์หรือเชียบัตเตอร์ด้วยก็ดี จากนั้นก็ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนไปกับเราด้วยค่ะ

ถ้าเพื่อนๆ ทำแบบนี้ได้ติดต่อกันสัก 15-20 วัน ผิวพรรณก็น่าจะกลับมาชุ่มชื้นได้กว่าที่เคยเป็น และเมื่อผิวกลับมาดีแล้ว การรักษานิสัยการดูแลตัวเองและนิสัยการรับประทานอาหาร ก็จะช่วยทำให้ผิวพรรณอยู่ดีมีสุขกับเราไปนานๆ ค่ะ