ในเว็บไซต์ womanandkid เรานี้นอกจากจะพูดเรื่องความสวยความงามแล้ว เราก็ยังให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพอีกด้วยนะคะ และตามที่เราได้คุยกันไปในบทความก่อนหน้านี้เรื่อง การติดเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการเสียสุขภาพและเสียงานการรวมทั้งการเรียน และให้ข้อสังเกตว่าอย่างไรจึงเรียกว่าเป็นการติดเกมคอมพิวเตอร์ไปแล้ว หากพบว่าตัวเองหรือคนที่รักติดเกมแล้วล่ะก็ มาดูว่าทำอย่างไรเมื่อติดเกมกันค่ะทุกอย่างอยู่ที่ตัวเอง
การจะชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ทำอะไรหรือเลิกอะไร ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น ว่าเราเห็นข้อดีหรือข้อเสียของการกระทำนั้นๆ หรือไม่อย่างไร เรียกว่าต้องรู้ตัว รู้อารมณ์ และรู้เหตุผลของเรื่องนั้นๆ การจะเลิกการติดเกมได้นั้น ตัวเองจะต้องทราบผลเสียของการติดเกม (การเล่นนิดหน่อย ไม่ได้เป็นผลเสียนะคะ ในทางตรงกันข้ามอาจจะเป็นผลดีด้วย แต่การเล่นมากเกินไปจะให้ผลตรงกันข้าม) ว่าทำให้เสียสุขภาพสายตา เสียสุขภาพกล้ามเนื้อ เสียงาน เสียการเรียน เสียโอกาสอีกหลายอย่างที่สามารถหาหรือสร้างได้หากนำเวลาที่เล่นเกมนั้นไปทำอย่างอื่น และเมื่อทราบว่าการติดเกมมีผลเสียมากมายแล้ว หากตั้งใจจะเลิก ก็...
เอามันออกไปจากชีวิต
ภาษาโบราณแบบนี้เรียกว่า หักดิบ กันเลยทีเดียว นั่นคือจัดการลบเกมนั้นออกไปจากคอมพิวเตอร์เสียเลย (อ่อ แล้วก็ลบออกจากสมารฺ์ทโฟน, แทบเบล็ต ต่างๆ ด้วยนะคะ) หรืออาจจะต้องลบบัญชีผู้ใช้ออกไปเลยในกรณีที่เป็นการเล่นเกมแบบออนไลน์ การทำแบบนี้อาจจะทำให้เราอึดอัด เกิดความอยาก ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา (ทำให้เราสบายใจได้ว่า ยังเป็นคนปกติอยู่) ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น ออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ เล่นกับสัตว์เลี้ยงที่มันคงเหงาเอามากๆ ที่เจ้านายเคยแต่ง่วนอยู่กับเครื่องจักรอื่น และหลังจาก 2-4 สัปดาห์ไปแล้วที่คุณไม่แตะต้องเกม อาการโหยหาการเล่นเกมก็จะหายไปเองค่ะ
อย่ากลับไปอีก
สิ่งหนึ่งที่เป็นการช่วยเตือนใจก็คือ เราจะต้องรู้เท่าทันว่า เกมส่วนมากนั้นถูกออกแบบให้ผู้เล่นเกิดการติดพันเกมนั้น โดยเกมจะมีอำนาจเหนือผู้เล่นในด้านนี้เหสมอ ดังนั้นหากคุณสามารถหายจากอาการติดเกมได้แล้ว ก็จงอยู่ในห่างเอาไว้ อย่าใช้เวลาเล่นเกมใดๆ ที่เริ่มรู้สึกว่าจะเกิดการติดพันอีก เพราะนั่นแสดงว่าเราเริ่มแพ้ความตั้งใจของคนที่สร้างเกมนั้นขึ้นมาแล้วค่ะ