ดิจิตอลบ่อนทำลายรัก


ในยุคปี 2013 แบบนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่คนที่ใช้สมาร์ทโฟน หรืออย่างน้อยก็มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และสิ่งที่ติดตามมากับสมาร์ทโฟนก็ย่อมจะเป็นโปรแกรมแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม โปรแกรมพูดคุย (แชท) รวมทั้งเครือข่ายทางสังคมทั้งหลาย และความที่คนเราถูกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น "ทุกที่ ทุกเวลา" ในดิจิตอลนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวอาจจะเป็นการบ่อนทำลายความรักเอาได้ง่ายๆ

สิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อคนเราถูกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา จะเกิดความเปลี่ยนแปลงกับคนคนนั้นอย่างไม่รู้ตัว เคยสังเกตดูหรือไม่ว่าเรามักจะกล้าเขียนความในใจลงในบล็อก ส่งทวิตเตอร์ หรือลงในเฟซบุ๊ก ไปให้คนที่เรารู้จักและไม่รู้จักได้อ่าน ได้ง่ายกว่าการที่จะพูดคุยกันโดยตรงกับคนอื่น หลายคนติดโทรศัพท์มือถือเสียจนยอมไม่ไปเจอหน้าคนรักสักหนึ่งสัปดาห์ ดีกว่าโดนยึดโทรศัพท์มือถือไปหนึ่งสัปดาห์ หลายคนยินดีกับการที่คนอื่นมาแสดงความคิดเห็นกับสิ่งที่ตัวเองเขียนลงไปในเครือข่ายทางสังคมทั้งหลายมากกว่าการที่คนรักของตัวเองให้ความเห็น (แม้จะเป็นแบบเดียวกัน) เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้ตัว ความห่างเหินย่อมก่อตัวแข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับ จนสุดท้ายความรักก็อาจจะพ่ายแพ้ให้กับโลกดิจิตอลเอาง่ายๆ

ทำไมต้องเลือก

ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความรัก คนรัก หรือคนที่อาจจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เราอาจจะต้องปรับตัวเพื่อใช้มันให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง เช่น แทนที่จะปลาบปลื้มกับคนที่แสดงความคิดเห็นกับโพสต์ของเรามากกว่าคนของเรา ก็คงต้องระลึกไว้เสมอว่าในความเป็นจริงเขาอาจจะคิดอีกแบบหนึ่งก็ได้ ไม่เหมือนคนของเราที่อยู่ใกล้ตัวที่เราไว้ใจได้จริง หรือใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์เสียเลย เช่น ใช้ส่งข้อความหวานๆ หาคนรักทั้งที่อยู่ใกล้และไกลกัน โดยอย่ายอมให้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเหล่านี้แย่งเวลาและความสนใจไปจากคนเป็นๆ จริงๆ ที่อยู่ใกล้ตัวไปได้

รู้ทัน ระวัง และแก้ไข

เมื่อเราทราบที่มาที่ไป และสิ่งทีเกิดขึ้นกับเราแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะป้องกันและแก้ไขความร้าวฉานที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิตอลเหล่านี้กัน โดยหลักแล้วก็คืออย่าปล่อยให้เครื่อเคราหล่านี้มารบกวนเราใน "ที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้" เมื่อเราอยู่กับคนรักก็ควรนำเครื่องมือเหล่านี้ออกห่างตัว หรือเมื่อทำธุระพิเศษด้วยกัน ก็ควรปิดเสียง ปิดระบบสั่น หรือแม้แต่นำเครื่องออกนอกห้องไป บางคนอาจจะจัดเวลาว่าระหว่างช่วงเวลานี้ถึงเวลานี้ จะไม่ตอบสนองการสื่อสารใดๆ (แต่โทรหรือติดต่อกลับในภายหลัง) นอกจากนั้นก็ต้องระวังไม่ให้ตัวเองมีอาการเช็คเมล์เช็คสถานะโดยไม่รู้ตัว เช่น ต้องคอยหยิบโทรศัพท์มาดูทุกๆ 10 นาทีว่ามีใครส่งข้อความอะไรมาหรือไม่ เป็นต้น

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ก็เหมือนกับสิ่งมีประโยชน์หลายอย่าง ที่มีสองด้าน คือมีทั้งคุณและโทษ เมื่อเราเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ที่คิดค้นมันขึ้นมา เราก็ต้องดึงเอาและใช้เฉพาะด้านดีของมันออกมา โดยไม่ทำให้เกิดผลเสีย หรือเกิดน้อยที่สุด จริงไหมคะ