ในการที่จะตกลงปลงใจอยู่ร่วมกัน ก่อร่างสร้างชีวิตคู่เป็นสามี-ภรรยากันนั้น สิ่งที่สมควรทำอย่างหนึ่งคือการดูว่าโดยทางร่างกายแล้ว คู่ของเรานั้นสามารถอยู่กันได้ ให้กำเนิดลูกน้อยอย่างสมบูรณ์ได้หรือไม่ นั่นคือสิ่งหนึ่งที่จำเป็นก็คือ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน นั่นเองนะคะการตรวจของทั้งชายและหญิงก็จะคล้ายคลึงกัน เริ่มจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด จากนั้นแพทย์ก็จะตรวจหากรุ๊ปเลือด ABO ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย ตรวจหาเชื้อภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบี ส่วนการตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมันจะตรวจเฉพาะฝ่ายหญิงนะคะ ทางฝ่ายชายไม่ต้องค่ะ
ในปัจจุบันนี้ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานนั้นจำเป็นมาก เนื่องจากในปัจจุบัน ฝ่ายชายและหญิงมักจะแต่งงานตอนอายุมาก ขณะที่ความเหมาะสมนั้นควรแต่งงานและมีบุตรไม่เกินอายุ 35-40 ปี นอกจากนั้นชีวิตในปัจจุบัน คนทำงานจำนวนมากใช้ชีวิตภายใต้ความเครียด อาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ ที่ก่อให้เกิดโรคร้ายโดยไม่รู้ตัวได้
อีกทั้งหากฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต่างมีพื้นฐานทางร่างกายที่ไม่เหมือนกันเช่น เลือดต่างกรุ๊ป (อันนี้ไม่เท่าไร) หรือคนละเชื้อชาติ (จุดนี้อาจจะแย่ได้) ซึ่งอาจนำความผิดปกติให้เกิดขึ้นกับลูกได้ โดยเฉพาะการแต่งงานกับชาวต่างชาติ มักพบปัญหากรุ๊ปเลือด เนื่องจากชาวไทยส่วนใหญ่จะมีเลือดกรุ๊ปหลักเป็น A, B หรือ O ส่วนกรุ๊ปย่อย (Rh) กว่าร้อยละ 90 ชาวไทยจะเป็น + ขณะที่ชาวต่างชาติมักจะเป็น -
ลักษณะ + และ - ของกรุ๊ปเลือดย่อยในคู่รักต่างเชื้อชาติมักจะเข้ากันไม่ได้ จึงทำให้การตั้งครรภ์ของภรรยาเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ทารกไม่แข็งแรง หรือแท้งบุตรได้ แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะถ้าตรวจวิเคราะห์แล้วทราบปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ยังไม่มีบุตร แพทย์จะวางแผนการแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้ ส่วนในขณะตั้งครรภ์ แพทย์จะให้วัคซีนป้องกันเลือดต่างกรุ๊ปปนกัน โดยเฉพาะขณะคลอดที่ต้องดูแลทารกเป็นพิเศษ ก็จะช่วยได้มากนะคะ
ส่วนอีกปัญหาที่ต้องพึงระวัง คือ โรคธาลัสซีเมีย หรือก็คือภาวะเลือดจางจากการถ่ายทอดพันธุกรรม (ทางยีน) โดยบุตรที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะป่วยเป็นโรคดังกล่าวไปด้วยได้หากพ่อและแม่เป็นพาหะ (ธาลัสซีเมียแฝง) รวมทั้งการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพาหะ หรือเป็นธาลัสซีเมีย ลูกที่เกิดมาจะมีอาการซีด เหลือง กรณีที่อาการรุนแรงจะมีใบหน้าผิดปกติ ตับโต ม้ามโต พัฒนาการทางร่างกายและสมองผิดปกติได้ค่ะ
คราวนี้เมื่อ รู้ทันความเสี่ยงกันแล้ว ก็อย่าละเลยการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานกันนะคะ มิฉะนั้นชีวิตคู่ที่หวานหยดก็อาจเปลี่ยนเป็นขมขื่นได้ค่ะ