ปวดประจำเดือนทำอย่างไร


ในสุภาพสตรีทุกๆ คน เมื่อถึงหนึ่งรอบเดือนก็จะต้องมีสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในวัยเจริญพันธุ์ นั่นคือการมีรอบเดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะคะ ในบางคนเมื่อถึงเวลามีรอบเดือน ก็อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก บางคนมีอาการนิดหน่อยเช่นเป็นสิวบ้างในบางจุด แต่ในขณะที่บางคนก็มีอาการรุนแรงปวดท้องน้องถึงกับคลื่นใส้ อาเจียน เป็นลมไปเลยก็มี ลองมาอ่านเพื่อทำความเข้าใจและหาวิธีป้องกันแก้ไขกันดีกว่าค่ะ

การปวดประจำเดือนของคุณสาวๆ โดยทั่วไป ก็มักจะเริ่มตั้งแต่วัยเริ่มเป็นสาว จนกระทั่งอายุ 25 ปี แต่ก็มีบางคนที่อาจจะปวดท้องประจำเดือนไปจนกระทั่งถึงวัยหมดประจำเดือนเลยก็มี การปวดประจำเดือนนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีการบีบและคลายตัวของมดลูก เพื่อทำการบีบไล่เลือดที่อยู่ในมดลูกออกมา ซึ่งเป็นผลจากการที่ผนังมดลูกสร้างสารเคมีพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ขึ้นมาบังคับการทำงานของมดลูกนั่นเอง โดยอาการปวดประจำเดือนมักจะเกิดขึ้นในระหว่างวันแรกถึงวันที่สามของการมีรอบเดือน แต่สาวๆ บางคนก็อาจจะปวดประจำเดือนตลอดระยะเวลาการมีรอบเดือนนั้นๆ ก็ได้นะคะ

เมื่อปวดประจำเดือนทำอย่างไร

1. รับประทานยาแก้ปวด
เมื่อมีอาการปวดมาก อาจจะรับประทานยาแก้ปวดจำพวก พาราเซตามอล ได้ หรือถ้าปวดมากก็สามารถใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs (Non-steroidal anti-inflammatory drugs) ซึ่งมักใช้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและลดการอักเสบในโรคที่มีการอักเสบของกล้ามเนื้อ (musculoskeletal pain) การที่ยากลุ่มนี้สามารถทำให้อาการปวด บวม บรรเทาลงเป็นผลมาจากการยับยั้งการสร้างสารสื่อการอักเสบจากวิถีของเอนไซม์ไซโคลออกซิเจเนส (Cyclooxygenase) โดยจะต้องรับประทานหลังอาหารนะคะ

2. การประคบด้วยความร้อน
สำหรับสาวๆ ที่เริ่มแรกมีประจำเดือนจนถึงอายุ 18 ปี แนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีนี้เนื่องจากอาจจะทำให้มีเลือดมาคั่งในมดลูกมากขึ้น และกลับทำให้ปวดท้องได้มากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นไม่ควรนอนราบอีกด้วยเนื่องจากอาจจะทำให้เลือดไหลย้อนกลับไปตามท่อนำไข่และอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคช็อกโกแลตซีส (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Chocolate Cyst ที่นี่) ได้ด้วย แต่เมื่ออายุเกิน 18 ปีไปแล้ว สามารถประคบด้วยน้ำอุ่นๆ หรือนอนราบได้

เป็นอย่างไรบ้างคะ เมื่อรู้ที่มาและที่ไปของอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกๆ เดือนแล้ว สาวๆ ก็จะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องปกติ และรู้วิธีที่จะจัดการกับอาการนี้ที่เข้ามาแวะเวียน (แล้วก็ผ่านไป) ในแต่ละเดือนๆ นะคะ