ดูอย่างไรว่าเครื่องสำอางหมดอายุ


ผู้หญิงกับเครื่องสำอางนั้นคงจะแยกออกจากกันได้ยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยมังคะในสมัยนี้ ถ้าเรามองไปในสมัยโบราณ ผู้หญิงก็รู้จักใช้เครื่องสำอางหรือเครื่องต่างๆ ในการบำรุงผิวมานานมากแล้ว จริงๆ แล้วก็น่าจะก่อนยุคพระนางคลีโอพัตราด้วยซ้ำไปมังคะ

การใช้เครื่องสำอางนั้น นอกจากจะต้องระวังอาการแพ้ต่างๆ แล้ว ยังจะต้องระวังเครื่องสำอางที่หมดอายุไขลงด้วย จะว่าไปอันที่จริงแล้วบริษัทเครื่องสำอางก็คงคิดมากอยู่เหมือนกันในเรื่องการหมดอายุของเครื่องสำอาง เพราะเขาเองก็คงไม่อยากทำให้เครื่องสำอางหมดอายุไปโดยเร็ว จริงอยู่ที่การหมดอายุที่เร็วอาจจะทำให้ผู้ใช้ต้องซื้อใหม่เร็วขึ้น แต่ตัวของเขาเองก็มีปัญหาในหลายเรื่องเช่น ชื่อเสียง (ผู้ใช้ก็จะต้องบ่นว่า ยี่ห้อนี้ หมดอายุเร็วมาก ยังไม่ทันจะใช้ก็ต้องทิ้งเสียแล้ว) และปัญหาด้านการเก็บรักษา อีกด้วย แต่การที่จะทำให้เครื่องสำอางมีอายุยืนยาวมากๆ นั้น หลายกรณีอาจจำเป็นต้องใส่สารกันบูดต่างๆ ลงไป สุดท้ายก็อาจจะมีผลกับผู้ใช้อีก

ดูอย่างไรว่าเครื่องสำอางหมดอายุ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็มาลงที่เครื่องสำอางทุกชนิดมีอายุอยู่ระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากผู้ใช้เห็นว่าหมดอายุแล้วก็อย่าเสียดายทนใช้อยู่นะคะ เพราะนอกจากอาจจะทำให้เกิดปัญหากับผิวได้แล้ว การใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุไปแล้วนั้น "สวยยาก" ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นสารออกฤทธิ์ก็ด้อยประสิทธิภาพลง สภาพทางกายภาพไม่ว่าจะเป็นความข้นใส สีสัน หรือเนื้อของผลิตภัณฑ์ก็อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมอีก จึงควรหยุดใช้และซื้อของใหม่มาใช้ดีกว่า และด้านล่างนี้ก็เป็นจุดสังเกตว่าเครื่องสำอางนั้นๆ ได้หมดอายุลงแล้ว เช่น
  • มีกลิ่นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • มีสีผิดไปจากเดิม
  • ลักษณะของเนื้อ ผิดไป เช่นจับตัวเป็นก้อน เป็นเมือก
  • มีความข้นใสผิดไปจากเดิม (ยกเว้นพวกที่ต้องเขย่าก่อนใช้ อาจะแยกชั้นได้เป็นปกติ)
นอกจากนี้ การใช้งานเครื่องสำอางนั้นก็สำคัญ คือต้องพยายามรักษาความสะอาดให้กับผลิตภัณฑ์ให้ดีเท่าที่จะทำได้ ไม่ควรใช้นิ้วมือจุ่มลงในขวดเครื่องสำอางทั้งขวด แต่ให้เทแบ่งออกมาใช้งาน เพราะนิ้วมือของเราอาจจะมีเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการเน่าเสียได้ค่ะ