ในยุคสมัยอุตสาหกรรม มีการเปลี่ยนแปลงของโลกเกิดขึ้นมากมาย เมืองไทยเองก็เช่นเดียวกัน จากเดิมที่เป็นเมืองเกษตรกรรมเป็นหลักแทบจะเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันรายได้ประชาชาติของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นจากอุตสาหกรรมเป็นหลัก เลยทีเดียว อุตสาหกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มได้มาก แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมค่อนข้างมาก จนบางครั้งก็กระทบกับพวกเราที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรม ด้วยซ้ำไปคือ โรคภูมิแพ้ต่างๆปัจจุบันเมื่อเราไปไหน มักจะพบเห็นผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะแพ้อากาศ แพ้เกสรดอกไม้ แพ้อาหาร แพ้สารเคมี แพ้ฝุ่นควันต่างๆ สาเหตุหลักนั้นเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราลดลงนั่นเอง หลายๆ คนต้องรับประทานยาเพื่อแก้ไขบรรเทาอาการ หนักเข้ากลายเป็นต้องรับประทานไปตลอด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว ลองมาหาวิธีธรรมชาติที่ง่ายกว่าในที่จะลดอาการ หรือแม้แต่กำจัดอาการภูมิแพ้นี้ไป ก็คือการเลือกรับประทานอาหารสร้างภูมิคุ้มกัน กันดีกว่า ค่อยๆ มาลองดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง
กระเทียม
นับว่าเป็นเครื่องเทศคู่กับอาหารไทยจริงๆ บางทีไม่ได้ใช้ไปปรุงกับอะไรก็ใส่เข้าไปในน้ำปลาพริกเสียอย่างนั้นก็มี กระเทียมนับเป็นอาหารวิเศษในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพราะมี สารที่ชื่อว่า อัลลิซิน (allicin) ที่เป็นผู้ช่วยพระเอกทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และปรับตัวฆ่าเชื้อไวรัสได้ดี ทำให้อาการหวัด ภูมิแพ้ และโรคติดต่อเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจต่างๆ ลดลง และยังช่วยต้านมะเร็งและลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL ไขมันชนิดไม่ดี) ได้อีกด้วย
โสม
จะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มพลังจริงหรือไม่คงต้องละเอา ไว้ก่อนในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือโสมทั้งหลายมีสารเคมีตัวหนึ่งชื่อ จินเซโนไซด์ (Ginsenosides) ที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นอย่างดี โสมจะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ทำให้สมองที่หมดแรงเหนื่อยล้า กลับสดชื่นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครที่นอนหลับพักผ่อนน้อยไม่เพียงพอแล้วล่ะก็ การดื่มน้ำโสมจะช่วยได้มาก อาจจะเพราะอย่างนี้ด้วยกระมังคะที่เขาเรียกว่าพลังโสม เพราะช่วยเพิ่มพลังได้ไม่มากก็น้อย
แอปเปิ้ล, ใบชา, หัวหอม
มาเป็นชุดเลยค่ะอันนี้ แต่เหตุผลนั้นมีอยู่ว่า ทั้งสามอย่างนั้นเป็นอาหารที่มีสารเคมีที่เรียกว่า เควอซิติน (quercetin) ในปริมาณมาก (2000–2500 mg/kg ในใบชาเขียว/ดำ, 440 mg/kg ในแอบเปิ้ล, 191 mg/kg ในหอมแดง) เควอซิตืนเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ที่มีคุณสมบัติ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้ดีเยี่ยม สามารถป้องกันมะเร็งและช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีนในร่างกาย ทำให้ลดอาการแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล ผื่นคัน และต้องกระซิบบอกสาวๆ ด้วยนะคะว่า ฟลาโวนอยด์เป็นสารที่ช่วยชะลอริ้่วรอย เนื่องจากช่วยป้องกันการเสียหายของเซลล์ และเสริมสร้างการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายแล้วอีกด้วย
เห็นจำนวนหลายอย่างแบบนี้แล้ว สาวๆ ก็ไม่ต้องตกใจไปว่าจะรับประทานอย่างไรไหวนะคะ เพราะไม่จำเป็นต้องทานทุกอย่างก็ได้ เลือกเอาชนิดที่สามารถหาได้และมีรสชาติถูกปากถูกใจของเรา (เรื่องที่ว่าต้องอร่อยด้วยนี้ มันก็ต้องมีกันบ้าง จริงไหมคะ) ก็น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยค่ะ