การแก้ไขอาการแพ้เครื่องสำอาง


ในบทความตอนที่แล้วเรื่อง สาเหตุและอาการแพ้เครื่องสำอาง เราได้พูดถึงกระบวนการในร่างกายที่ทำให้ผิว หรือแม้กระทั่งของตัวเรา แพ้เครื่องสำอาง รวมทั้งชนิดทั้งสองของอาการแพ้ไปแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าอาการแพ้นี้เป็นจำเพาะคน คือคนหนึ่งๆ อาจจะแพ้หรือไม่แพ้สารเคมีอะไรไม่เหมือนกันกับคนอื่น แต่เมื่อเกิดอาการแพ้เครื่องสำอางแล้ว เราควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร มาลองติดตามกันดูนะคะ

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการแพ้ (หรือสงสัยว่าจะแพ้) เครื่องสำอาง

1. ให้หยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดก่อน โดยเฉพาะเครื่องสำอางชนิดใหม่ที่เพิ่มเริมใช้และทำให้เกิดอาการแพ้ แต่มีข่าวดีว่า ลิปสติกนี้พอจะอนุโลมให้ใช้ต่อได้หากบริเวณริมฝีปากไม่มีผื่นจากอาการแพ้เนื่องจากอย่างอื่นปรากฏขึ้นมา ยกเว้นว่าเราแน่ใจจริงๆ ว่าแพ้ลิปสติกแท่งสวยอันใหม่ที่เพิ่มซื้อมา ก็ต้องหยุดทั้งหมดล่ะค่ะ

2. งดการใช้สารชำระล้างที่เป็น สบู่ แชมพู ต่างๆ ก่อน โดยเลือกใช้น้ำเปล่าเป็นทางเลือกแรก รองลงมาก็เป็นสบู่สำหรับเด็กที่เป็นสบู่อ่อนและไม่มีน้ำหอมเจือปนอยู่ เนื่องจากเราอาจจะแพ้สารทำความสะอาดเอง หรือสารทำความสะอาดเหล่านี้จะไปทำให้กลไกการป้องกันผิวของเราอ่อนแอลงเพิ่มขึ้นได้

3. ถ้าอาการแพ้เป็นชนิดที่ทำให้ผิวแห้งมาก สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชิ้นในบริเวณนั้นได้ แต่ก็จะต้องเลือกให้เป็นแบบอ่อนโยนที่สุด ลองเล็งๆ หาผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับเด็กจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ

4. หลังจากที่อาการแพ้ต่างๆ ลดลงแล้ว (อาจจะใช้เวลาตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์) ลองทดสอบดูว่าเราแพ้เครื่องสำอางตัวไหนในบรรดาอุปกรณ์ "ทำสวย" ของเรา โดยลองทาลงที่ข้อพับวันละ 2 ครั้งติดต่อกันนานหนึ่งสัปดาห์ ถ้าครบเวลาแล้วยังไม่เกิดอะไรขึ้น โอกาสที่เราจะแพ้ผลิตภัณฑ์นั้นคงน้อยมาก และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ สำหรับเครื่องสำอางที่เราเริ่มนำกลับมาใช้ สุดท้ายก็ต้องพบว่าเราแพ้อะไรจนได้ (ยกเว้นว่าไปแพ้อย่างอื่นมา เช่นรับประทานอะไรบางอย่างที่เราแพ้ แต่คิดไปว่าเครื่องสำอางเป็นต้นเหตุ เป็นต้น)

5. ไม่ว่าจะพบชนิดเครื่องสำอางที่สาวๆ แพ้หรือไม่ ในการไปพบแพทย์ให้เตรียมเอากล่องบรรจุภัณฑ์ของเครื่องสำอางที่สาวๆ ใช้อยู่ไปให้แพทย์ผิวหนังได้ดูด้วย อย่างน้อยแพทย์ก็จะได้ทราบว่ากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ เพื่อให้การรักษาและสืบหาสารเคมีเจ้าปัญหาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. สาวๆ อาจจะใช้วิตามินช่วยในการลดอาการแพ้ก็ได้ วิตามินดังกล่านี้ก็เช่นวิตามินอี ซึ่งสามารถลดอาการผื่นคันและช่วยระบบคุ้มกันของร่างกาย, กรดโฟลิค (Folic Acid) ซึ่งเป็นจำพวกหนึ่งของวิตามินบีรวมจะช่วยในการเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์, น้ำมันโอลบาส (Olbas Oil) จะช่วยเปิดรูขุมขน, น้ำมันจากต้น Tree Tea (เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกับต้นชาที่เราใช้ชงดื่มกันนะคะ) มีคุณสมบัติในการลดอาการอักเสบของผิวหนังและช่วยในการทำให้รูขุมขนกระชับทำให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพผิวดี อย่างไรก็ตามสาวๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาต่างๆ ก็จะเป็นการดีค่ะ

ในโลกของเครื่องสำอางที่มีจำนวนมากมายเช่นทุกวันนี้ ทั้งที่ก่อนการออกจำหน่ายก็ได้มีการทดสอบอย่างดีแล้ว แต่ก็อาจจะเกิดการแพ้สำหรับบางคนได้ ซึ่งจะต้องได้รับการจัดการดูแลเป็นอย่างดี อาการแพ้โดยทั่วไปสามารถหายได้เองด้วยการดูแลที่ถูกต้องตามด้านบน ซึ่งหากยังไม่สามารถบรรเทาอาการลงได้ หรือมีอาการผิดปกติอื่นนอกจากที่บริเวณผิวหนังเกิดขึ้นด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ