ทำอย่างไรเมื่อถูกยืมเงิน


หลายๆ คน อาจจะเคยเจอคนรู้จัก (พยายามเลี่ยงไม่ค่อยใช้คำว่าเพื่อน) ที่เจอหน้าทีไร เจ้าหล่อน (หรือพ่อหนุ่ม) จะต้องเอ่ยปากขอยืมเงินอยู่ร่ำไป ซ้ำยังได้ยินกิตติศัพท์ของคนนี้ว่า ยืมใครก็เหมือนขอ คือไม่ยอมคืน ทวงแล้วทวงอีกจนคนทวงเบื่อไปเองนั่นแหละค่ะ อย่างนี้ก็มีคำถามว่า แล้วจะปฏิเสธอย่างไร (สำหรับผู้ที่เราอาจจะอยากให้หยิบยืมเงิน อาจจะมีเหตุผลอันสมควรก็ได้ ติดตามอ่านให้จบเรื่องนะคะ) ตามตำราการปฎิเสธ ของเซียนปฏิเสธทั้งหลาย ว่าไว้ว่ามีหลายวิธีดังนี้ค่ะ

1. บอกไปตรงๆ ว่า "ไม่มีเหมือนกัน" เป็นสิ่งที่ดีถ้าคุณก็ไม่มีเหมือนกัน
2. แต่ถ้ามี แล้วบอกว่าไม่มีเงิน เดี๋ยวจะไม่มีจริงๆ เอาเป็นบอกไปว่า "ไม่ได้หรอก เดี๋ยวต้องเอาไปจ่ายนู่น จ่ายนี่ อีกเหมือนกันน่ะ"
3. บางท่านว่องไว โดยตัดหน้าก่อนเลย เจอหน้าให้ขอยืมตังค์เขาก่อนเลย ลูกไม้นี้เสร็จทุกราย
4. บอกไปว่า "ที่ยืมไปคราวที่แล้วอ่ะ ยังไม่ได้คืนเลยนะตัวเอ๊งงง" (เอ่อ.. ถ้าเขาเคยยืมเราแล้วไม่คืนจริงๆ นะ)
5. หรือบอกว่า "เงินที่มีฝากอยู่ในที่ที่ถอนไม่ได้อะ ส่วนเงินที่มีใช้อยู่ปัจจุบันก็มีพอกินพอใช้เท่านั้น แหละ"
6. บางช่วง บางเวลา มุขนี้ได้ผลนะว่า "ติดหุ้นอยู่ฟร้อย อารมณ์เสียนะเนี่ย"
7. บอกว่า "ให้คนอื่นยืมไปอยู่ เขาก็ยังไม่ใช้คืนเลย ทวงแล้วทวงอีก ก็ยังไม่ได้ เงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ ด้วยนะเนี่ย (แล้วทำสีหน้าโมโหเล็กๆ)"
8. ถ้ารู้ว่าจะไม่ได้คืนแน่ๆ แต่กลัวเขาอดตาย เขายืม 3000 ก็บอกว่ามี 300 แล้วให้ไปแค่นั้น ถึงทวงคืนไม่ได้ ก็เสียเพื่อนในราคา 300 ถูกหน่อย
9. เงินอยู่กะแฟน (ภรรยา, สามี อะไรก็ว่าไป)

เอาล่ะค่ะ ที่ว่าข้างบนนั่น เป็นเรื่องพูดเล่น แต่ทำจริงได้หมดนะคะ ซึ่งก็เหมาะสมกับบางคน บางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เราลองกลับมาพิจารณาทางธรรมกันบ้างสักนิด (เอ่อ.. เพื่อนๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ากลายเป็นเว็บธรรมะไปเสียแล้วนะคะ) คือเป็นธรรมในข้อเรื่อง "วิสาขามหาอุบาสิกา" คืนที่ธนัญชัยเศรษฐี (บิดา)ได้สอนนางสาววิสาขาในเรื่องการวางตัว มีสองข้อที่สอดคล้องกับสถานการณ์นี้คือ

ก) ไม่ให้กับผู้ที่ไม่ควรให้ เมื่อคนทุศีลมาขอยืม การให้ยืมอาจนำไปสู่วิบากเป็นพันธะของเจ้าหนี้-ลูกหนี้ ทวงไปก็ไม่ได้เงินคืน เสียเวลา เสียสมาธิเปล่าๆ แทนที่จะได้บุญกลายเป็นบาป
ข) ให้กับผู้ที่ควรให้ เมื่อหมู่ญาติเดือดร้อนมาขอยืม แม้เขาจะไม่คืนก็ต้องให้เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลโดยไม่หวังผล หรือเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน เห็นมาว่าอยู่ในศีลธรรม ไม่เคยใกล้อบายมุข แต่จำต้องขอยืมด้วยเหตุอันจำเป็นเพียงครั้งเดียวแบบสุดวิสัย และเพื่อนมีนิสัยอันดีอยู่ในสัมมาอาชีพ ดังนี้แล้วก็สมควรให้ยืมได้ หากไม่สบายใจอาจจะยึดของหรือทรัพย์บางอย่างไว้เป็นประกัน ก็พอได้ ตัวผู้เขียนเองก็เคยทำแบบนี้นะคะ เพื่อนที่นิสัยดีเคยหยิบยืมเงิน เพราะเดือดร้อนชั่วครู่คราว เมื่อถึงเวลากำหนดก็นำเงินมาคืนไม่บิดพริ้ว ตอนนี้ได้ดิบได้ดีมีธุรกิจส่วนตัวใหญ่โต ก็ไม่เคยลืมกัน นั่นคือยังคงความเป็นคนดีอยู่ไม่เสื่อมคลายค่ะ

และในกรณีที่เราเป็นคนที่อาจจะต้องตกที่นั่งลำบาก การที่เราอยู่ในศีลธรรมมาตลอด ประกอบสัมมาอาชีพที่ดี การจะหยิบยืมเงินผู้อื่น หรือเอ่ยปากขอให้ใครช่วยเหลือ ย่อมง่ายกว่าการที่เราทำตัวไม่อยู่ในโล้ในพาย ดังเช่นที่เราก็ต้องดูว่าคนที่เราจะให้ยืมเงินนั้นเป็นเช่นใด ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้อื่นก็ดูเราเช่นกันนะคะ

หวังว่า เพื่อนๆ จะได้แนวทาง วิธีปฏิบัติในเรื่องของการหยิบยืมเงินบ้างนะคะ