ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนการเลือกใช้คอนแทคเลนส์คือความจำเป็นในการใช้คอนแทคเลนส์ เช่น มีสายตาผิดปกติ ไม่ต้องการใส่แว่นตา หรือมีปัญหาในการใช้แว่นตา เป็นต้น โดยที่ต้องไม่มีโรคตาหรือสภาวะผิดปกติทางร่างกายที่เป็นข้อห้ามในการใช้คอนแทคเลนส์ สำหรับผู้ที่ใส่แว่นตาได้ โดยที่ไม่รู้สึกรำคาญอะไรนัก (และหากโชคดีสองชั้น คือใส่แล้วดูสวยปิ๊งกว่าไม่ใส่ก็มีนะคะ) การเลือกใส่แว่นตาก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่อาจจะตามมาได้มากค่ะสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การใช้คอนแทคเลนส์มีประโยชน์และปลอดภัยสูงสุด ก็คือการเข้าใจและการปฏิบัติตนในการใส่ถอด และเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ รวมถึงการดูแลรักษาคอนแทคเลนส์ได้อย่างถูกต้อง ส่วนการเลือกใช้คอนแทคเลนส์ประเภทใดนั้น ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ระดับและชนิดของค่าสายตาที่ผิดปกติ ลักษณะสุขภาพดวงตา สิ่งแวดล้อม และสุขนิสัยของผู้ใช้คอนแทคเลนส์ ซึ่งเรื่องนี้จักษุแพทย์สามารถให้คำปรึกษาได้ดีที่สุดนะคะ
ทั้งนี้ก็มีผู้ที่ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้คอนแทคเลนส์ หันไปใส่แว่นตาเสียน่าจะดีกว่า ได้แก่ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ดวงตาบ่อยๆ ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้ที่ดวงตา ผู้ที่มีโรคตาแห้ง ผู้ที่ทำงานในสภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นควัน หรือละอองสิ่งสกปรกในปริมาณมากและผู้ที่ไม่สามารถดูแลรักษาคอนแทคเลนส์ได้ อย่างถูกวิธี หรือเรียกว่าพยายามเท่าไรก็ยังออกแนวซุ่มซ่ามอยู่เรื่อยๆ แบบนี้ท่าทางจะลำบากนะคะ
การดูแลรักษาคอนแทคเลนส์อย่างง่าย ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสคอนแทคเลนส์ และดวงตา, ทำความสะอาดคอนแทคเลนส์และกล่องใส่คอนแทคเลนส์ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาทำความสะอาด, อย่าใส่คอนแทคเลนส์ขณะที่นอนหลับ, อย่าใส่คอนแทคเลนส์ว่ายน้ำ, อย่าใช้น้ำประปา น้ำบาดาล น้ำเกลือที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ หรือแม้กระทั่งน้ำลาย (อื๋อออ...) ในการล้างหรือทำความสะอาดคอนแทคเลนส์, และอันนี้สำคัญคือ อย่าใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น (ติดเชื้อเอาง่ายๆ นะคะ), ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ต่อเนื่องนานเกิน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ตามระยะเวลาที่กำหนด, หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดตาที่ไม่ได้รับการแนะนำโดยจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในขณะใส่คอนแทคเลนส์ และหากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ตาแดง เจ็บตา มีขี้ตา ตามัว ควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์ และรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที โอ้ว เห็นดังนี้แล้ว ไม่แน่ใจว่าหลายๆ คนอาจจะบอกว่ายุ่งยากเหลือแสนจริงไหมคะ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ บางทีการใส่คอนแทคเลนส์ก็สะดวกคล่องตัวกว่า และอาจจะทำให้ดูดีกว่าสำหรับสาวๆ หลายๆ ท่าน ยุ่งแค่ไหนก็ยอมล่ะเอ้า จริงไหมคะ
อ่ะ กลับมาถึงปัญหาที่มักจะเกิดในปัจจุบันกันดีกว่าค่ะ คือนอกจากปัญหาทั่วๆ ไปที่เกิดจากการดูแลรักษาคอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ยังมีปัญหาสำคัญที่ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือการใช้คอนแทคเลนส์ชนิดตาโต บิ๊กอายส์ (Big eyes - ตาโต๊.. โต) เพื่อความสวยงาม ซึ่งคอนแทคเลนส์ชนิดนี้มักมีสีสันให้เลือกหลากหลายราคาไม่สูง และสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าต่างๆ ทำให้คอนแทคเลนส์ชนิดนี้ซื้อง่ายขายคล่องไปตามแฟชั่น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน วัยรุ่น นักศึกษา หรือคนทำงานทั่วไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว คอนแทคเลนส์ถือว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ แต่คอนแทคเลนส์ที่เรียกว่าบิ๊กอายส์ทั้งหลายที่เห็นกันนั้น ส่วนใหญ่มักไม่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยา (อ.ย.) ว่ามีคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้งานกับดวงตาได้อย่างปลอดภัย และผู้ใช้มักเลือกซื้อโดยไม่ทราบถึงขนาดความโค้งที่เหมาะสมกับตาของตัวเอง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ง่าย ทั้งทำให้สายตาสั้นไป ยาวไป เอียง และเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อที่กระจกตา ซึ่งพบได้มากทีเดียวค่ะ
ถ้าไม่จำเป็นแล้ว (อืม จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยจำเป็นอะไรนี่คะ) เราควรหลีกเลี่ยงการใช้คอนแทคเลนส์ชนิดบิ๊กอายส์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาได้เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับการใช้คอนแทคเลนส์มือสอง ซึ่งอาจมีคุณภาพและความปลอดเชื้อไม่ได้มาตรฐาน และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในลักษณะเดียวกัน เพราะดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ อย่างไรก็ต้องรักษา ทนุถนอมให้เต็มที่นะคะสาวๆ ขา...