มันคืออะไร
ไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นกลุ่มของสารเคมีที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากพืชบางชนิด ซึ่งทำหน้าที่ทำให้ผลไม้หรือต้นไม้นั้นมีสีโดยเฉพาะสีเหลือง แดง และน้ำเงิน เช่นผลไม้จำพวกส้มและมะนาว เป็นต้น ไบโอฟลาโวนอยด์ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ไบโอฟลาโวนอยด์จะทำงานพร้อมกับสารต่อต้านอนุมูลอิสระอื่นทำให้เกิดระบบที่ทำหน้าที่ป้องกันร่างกายของเรา ตัวอย่างชัดๆ คือมีการศึกษาว่ามันทำหน้าที่้ป้องกันไม่ให้วิตามินซีรวมตัวกับออกซิเจนในร่างกายของเรา นั่นก็ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินซีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง
มีอยู่ที่ไหน
ไบโอฟลาโวนอยด์มีอยู่ในพืชจำนวนมาก จริงๆ แล้วพืชที่เรียกได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรต่างๆ เป็นหนี้การทำงานของไบโอฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในสมุนไพรนั้นในการช่วยรักษาอาการต่างๆ นอกจากคุณสมบัติในการเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว ไบโอฟลาโวนอยด์ยังช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีและทำงานได้ในหลายทางเช่น ต่อต้านการทำงานของสารก่อการกลายพันธุ์ ต่อต้านสารก่อมะเร็ง ต่อต้านริ้วรอย และทำให้โครงสร้างและการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น แหม สำหรับสาวๆ เราแล้ว พอได้ยินเรื่องการต่อต้านริ้วรอยของไบโอฟลาโวนอยด์เพียงอย่างเดียว ก็เรียกว่าคุ้มที่ได้รู้จักกันแล้วล่ะค่ะจริงไหมล่ะคะ
ผลดีต่อสุขภาพ
ไบโอฟลาโวนอยด์มีผลต่อสุขภาพสองด้านใหญ่ๆ แต่ล้วนสำคัญทั้งคู่ก็คือ การทำให้การทำงานของร่างกายดีขึ้น สมบูรณ์ขึ้น และอย่างที่สองคือผลในทางช่วยการรักษาเยียวยาร่างกายที่มีปัญหาของเรา ในส่วนแรกที่ช่วยการทำงานของร่างกายนั้นก็เช่น การทำให้สายตาทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงและมีผิวพรรณที่ดีขึ้น (แหม อันนี้แหละ ใช่เลยสำหรับสาวๆ เราค่ะ) และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้สุขภาพดีขึ้นโดยลดความเสี่ยงของโรคบางอย่างเช่น โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดต่างๆ, มะเร็ง, โรคไขข้อและโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ในส่วนที่สองที่เกี่ยวกับการนำไปใช้รักษานั้นรวมถึงช่วยในการเยียวยาโรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคภูมิแพ้, อาการอักเสบ, ริดสีดวงทวาร, โรคทางเดินหายใจ, การติดเชื้อไวรัสบางชนิด, โรคมะเร็งบางชนิด และแผลในกระเพาะอาหาร แหม ช่างมีประโยชน์มากมายจริงๆ นะคะ
หลังจากอ่านบทความนี้ เพื่อนๆ คงพอได้ความรู้ว่าเจ้าไบโอฟลาโวนอยด์ที่เรามักจะได้ยินเสมอเวลาเลือกซื้ออาหารเสริม เลือกซื้อเครื่องสำอางต่างๆ นั้นคืออะไร และมีไว้เป็นประโยชน์อะไร ในคราวต่อไปเราจะดูว่า ในพืชชนิดใดมีไบโอฟลาโวนอยด์มากน้อยแค่ไหนและต่างกันอย่างไรบ้าง โปรดคอยติดตามนะคะ