วิธีกำจัดกลิ่นตัว


จากบทความคราวที่แล้วเรื่อง กลิ่นตัวเกิดจากอะไร เพื่อนๆ ก็ได้ทราบที่มาของกลิ่นแล้ว ว่าเป็นการทำงานของแบคทีเรีย ผสมกับสภาพที่เอื้ออำนวยคือ มีอาหาร มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ มีสภาพความเป็นกรดด่างที่พอดี เป็นต้น ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ เป็นการขัดต่อความสวยความงามของสาวๆ เราจริงๆ (ทั้งที่ถ้าดูแต่ตา อาจจะสวยพรื้งเพรา แต่หากมีกลิ่นตัวไม่พึงควรจะมี ท่าทางจะแย่ จริงไหมคะ) มาถึงบทความคราวนี้ เรามาดูกันต่อดีกว่าว่า เราจะจัดการป้องกันและแก้ไขกลิ่นกายที่ไม่อยากให้มีนี้ได้อย่างไร

การป้องกันและแก้ไขกลิ่นกาย

1. ลดปริมาณเหงื่อ

เพราะว่าเจ้าเหงื่อนี่เองที่เป็นต้นเหตุ ถ้าเราไม่มีเหงื่อแล้ว เราก็จะมีกลิ่นตัวลดลงได้ มียาหรือสารเคมีบางชนิดที่ใช้ทาแล้วสามารถลดการขับเหงื่อลงได้ สารประกอบบางประเภทของอลูมิเนียมจะมีผลสามารถลดปริมาณเหงื่อที่ร่างกายขับออกมาได้ อย่างไรก็ตามเราต้องสร้างสมดุลระหว่างการขับเหงื่อของร่างกายด้วย เนื่องจากการขับเหงื่อเป็นกระบวนการในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย และเป็นการขับเอาสารพิษออกมาด้วย

2. ดูแลเรื่องอาหาร

อาหารบางอย่างเช่น เครื่องดื่มคาเฟอิน ไขมัน แป้ง กระเทียม หอม หากรับประทานมากเกินไปก็ทำให้กิดกลิ่นตัวได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ซึ่งมีโปรตีนมากบางประเภท จะทำให้มีกลิ่นฉุนได้เนื่องจากร่างกายนำไปใช้งานไม่หมด สำหรับสาวๆ (หรือหนุ่มๆ ด้วยก็ตาม) ที่มีกลิ่นตัว ก็ควรสังเกตตัวเองว่าเรารับประทานอะไรมากเป็นพิเศษหรือเปล่า และทดลองลดปริมาณของอาหารชนิดนั้นๆ ลง และดูว่ามีผลทำให้กลิ่นตัวน้องลงหรือไม่ (อาจจะต้องรอ 3-5 วันก่อนจะเริ่มเห็นผล)

3. รักษาความสะอาด

เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายที่สุด และสำคัญ มีผลมากที่สุดในการกำจัดกลิ่นตัว แต่หลยๆ คนกลับละเลยเรื่องนี้ เราควรอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือตอนเช้าและก่อนนอน หากเป็นไปได้ก็อาบระหว่างวันด้วยก็ดี (คงน้อยคนมากที่จะมีโอกาสอย่างนั้นได้ เนื่องจากเราก็มีภาระหน้าที่อยู่นอกบ้านกันจริงไหมคะ) การอาบน้ำเป็นทั้งการกำจัดคราบเหงื่อไคลที่มีอาหารของแบคทีเรียผสมอยู่ และเป็นการกำจัดแบคทีเรียไปด้วยในตัว ถ้าสบู่ธรรมดาเอาไม่อยู่ล่ะก็ มีสบู่ที่ทำหน้าที่กำจัดแบคทีเรียโดยเฉพาะให้เลือกใช้อยู่ไม่น้อย ลองเลือกดูตามที่ชอบได้เลยล่ะค่ะ และถ้าจะให้คะแนนแล้ว การอาบน้ำให้สะอาดบ่อยๆ เป็นประจำจะได้คะแนน 8 เต็ม 10 ในการกำจัดกลิ่นตัวเลยนะคะ

4. เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน

เสื้อผ้าต่างๆ ที่เราสวมใส่จะสัมผัสกับตัวเราอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายถึงว่า เสื้อผ้าก็จะซับทั้งเหงื่อและแบคทีเรียผสมรวมๆ กันเก็บกักเอาไว้ด้วย หากเราใช้เสื้อผ้าชุดเดิมไม่ยอมนำไปซักทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทั้งตัวเสื้อผ้าเองก็มีกลิ่น และความไม่สะอาดทั้งหลายก็อาจจะย้อนจากเสื้อผ้ากลับมาหาตัวเรา ทั้งที่เราอาบน้ำสะอาดเอี่ยมแล้ว กลับทำให้ตัวเรามีกลิ่นได้อีก ดังนั้นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทุกวันโดยเฉพาะบรรดาชั้นใน ถุงเท้า ต่างๆ นะคะ

5. กลิ่นจากสาเหตุอื่น

ในสุภาพสตรีที่มีการตกขาวอยู่ อาจจะทำให้มีกลิ่นคล้ายคาวปลาปนออกมากับกลิ่นตัวตามปกติ เรื่องนี้จะต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อจัดการกับต้นเหตุของอาการตกขาวให้ถูกต้องด้วย

6. น้ำยากำจัดกลิ่น

ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ก็สามารถช่วยได้เป็นครั้งคราว ในน้ำยาระงับกลิ่นกายบางประเภทก็อาจจะมีสารเคมีที่ลดปริมาณเหงื่ออยู่ในตัวด้วย การใช้งานก็ควรทาในบริเวณจำเพาะที่มีเหงื่อออกมาก และไม่อ่อนบางเกินไป นอกจากนั้นแล้วเมื่อใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายเหล่านี้แล้ว จะต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนการรับประทานอาหารด้วย

หลังจากได้อ่านบทความนี้ เพื่อนๆ ทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ น่าจะได้ความคิดในการจัดการกับกลิ่นกายของตัวเอง หรือแม้กระทั่งตัวเองไม่มีกลิ่นมากนัก (จะบอกว่า ไม่มีกลิ่นเลยคงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าตูบจะต้องจำไม่ได้แน่ๆ) ก็น่าจะได้ความคิดทำให้กลิ่นของเรา หอมขึ้นๆ ไปอีก จริงไหมคะ