เรื่องของสุขภาพฟันเป็นเรื่องสำคัญในการมีชีวิตกันเลยทีเดียวนะคะ เรื่องของฟันนั้นไม่ได้สำคัญสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่สำคัญกับสัตว์ทุกประเภท ถ้าเป็นสัตว์ป่าที่มีปัญหาเรื่องฟันจนถึงขนาดที่ไม่สามารถกินอาหารได้แล้วล่ะก็ สัตว์ตัวนั้นอาจจะถึงกับตายเอาง่ายๆ เลยทีเดียว แต่เนื่องจากเราเป็นมนุษย์ เราได้คิดค้นเครื่องมือ สารเคมี ที่ทำให้เราดำรงคุณภาพของปากและฟันไว้ได้อย่างยาวนาน และถึงแม้จะมีปัญหาเราก็ยังมีบุคลากรที่สามารถจัดการกับปัญหาปากและฟันให้ได้อีก (ก็ทันตแพทย์ไงล่ะคะ) แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาสุขภาพปากและฟันโดยเบื้องต้นก็ยังเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำด้วยตัวเองอยู่ดี
การแปรงฟัน
หนึ่งในการรักษาสุขภาพปากและฟันก็คือการแปรงฟันที่สม่ำเสมอเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารตกค้างตามซอกหลืบต่างๆ ของฟัน หรือแม้แต่ระหว่างฟันกับเหงือก ถ้ามีเศษอาหารสะสมตกค้างอยู่ จะทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาจากปากได้ ไปพูดจาเจรจากับใครก็คงต้องเบือนหน้าหนีอย่างแน่นอน
แล้วลิ้นล่ะ
สิ่งหนึ่งที่เรามักจะหลงลืมไปในขณะทำความสะอาดปากก็คือการแปรงลิ้น หลายคนอาจจะสงสัยว่าก็อุตส่าห์แปรงฟันอย่างดี สะอาดหมดจดแล้ว แต่ทำไมจึงยังมีกลิ่นปากอยู่ คงต้องลองแลบลิ้นสำรวจแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาจจะพบกับความจริงที่ว่าลิ้นมีแต่คราบไม่สะอาด คราบนี้สามารถประกอบไปด้วยเศษอาหาร เศษเซลล์ของลิ้นที่ตายแล้ว แบคทีเรีย (สภาพบนลิ้นนั้นเหมาะกับแบคทีเรียเลยล่ะค่ะ ขอบอก) ซึ่งสะสมและย่อยสารอินทรีย์ต่างๆ ที่เกาะติดอยู่บนลิ้นอย่างสนุกสนาน นั่นแหละค่ะที่เป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นปากเลยค่ะ
อย่าลืมนะคะ ทุกครั้งที่แปรงฟัน ก็ควรจะแปรงลิ้นด้วย ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มก็เพียงพอแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ถ้ามีปัญหามากก็อาจจะต้องมองหาเครื่องมือที่ใช้สำหรับขูดลิ้น (ถ้าใจร้อน ก็แปรงธรรมดา หลายวันถี่ๆ หน่อยก็ออกได้เหมือนกันนะคะ ไม่เจ็บด้วย) หรือเจลสำหรับสลายแบคทีเรียและคราบต่างๆ ออก ซึ่งสามารถสอบถามได้จากเภสัชกรนะคะ