ร่างกายก็เหมือนกับเครื่องจักรกลชีวภาพขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน มีการคิด มีการกระทำ มีการใช้พลังงานออกมา และแน่นอนที่สุดต้องมีพลังงานเติมใส่เข้าไปเพื่อให้เครื่องจักรมีชีวิตนี้ดำรงชีพอยู่ได้ ทั้งเมื่อเราตื่นและเมื่อเรานอน แล้วถ้าเรากำลังเตรียมตัวไปออกกำลังกายล่ะ เราควรกินอาหารรองท้องก่อนไหมการออกกำลังกาย เป็นการใช้พลังงานอย่างมาก บางคนอาจจะรู้สึกไปว่า ก็เพราะว่าเราต้องการออกกำลัง หลายคนต้องการลดน้ำหนักด้วย เราก็ควรจะอดอาหารสิ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงเสี้ยวเดียว (คือไม่ถึงครึ่ง) เนื่องจากการออกกำลังกายในขณะท้องว่างนั้นจะทำให้ร่างกายหลัง ฮอร์โมนคอร์ติซอล ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่หลั่งออกมาเมื่อเราเกิดความเครียด เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ ในความเป็นจริงแล้วเราควรรับประทานอาหารรองท้องนิดหน่อยก่อนการออกกำลังกายค่ะ
ควรกินอะไร
สารอาหารหลายอย่างมีความสำคัญต่างกนต่อร่างการ คาร์โบไฮเดรตจะย่อยง่ายและให้พลังงาน โปรตีนจะช่วยสร้างอวัยวะและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ในขณะที่ไขมันก็ให้พลังงานแต่เราคงไม่ต้องการมันมากเกินไป (แหม ก็อุตส่าหก์ไปออกกำลังเพื่อจะเผาผลาญไขมันนี่นา) ดังนั้นสิ่งที่ควรกินอาจจะกล่าวสั้นๆ ว่าเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง-โปรตีนปานกลาง-และไขมันต่ำ ตัวอย่างก็เช่น แซนด์วิชไก่ชิ้นเล็กๆประกบด้วยขนมปังโฮลวีท, โยเกิร์ตชนิดไขมันต่ำกับกล้วยผ่าซีก อะไรทำนองนี้นะคะ
กินให้ถูกเวลา
พอบอกว่าการรับประทานก่อนการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าสาวๆ จะจับอาหารใส่เข้าปากและลงท้องทันทีก่อนที่จะเล่นกีฬานะคะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานเพื่อตุนเสบียงไว้นี้ควรเป็นประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนที่จะออกกำลัง และก่อนจะออกกำลังจริงๆ ก็หาขนมสักชิ้นใส่ปากสักหน่อย โดยเจ้าขนมที่ว่านี้จะมีขนาดชิ้นใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นกับว่าตั้งใจจะออกกำลังนานแค่ไหน ถ้าไม่ถึง 45 นาทีก็ชิ้นเล็กหน่อยก็พอค่ะ
สิ่งสำคัญก็คือ หลังจากออกกำลังกายแล้ว ก็อย่ากินมากเกินกว่าที่ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานไปในการออกกำลังนั้นนะคะ ถ้าเราออกกำลังกายนิดหน่อย คือราวๆ 45-60 นาที สิ่งที่ควรรับประทานหลังจากนั้นก็คือน้ำเปล่าเพียงแก้วเดียว และข้ามไปรับประทานอาหารมื้อต่อไปเลย แต่ถ้าออกกำลังกายหนักกว่านั้น ก็อาจจะยอมให้รับประทานขนมชิ้นจิ๋วในระหว่างการรออาหารมื้อต่อไปได้ค่ะ
