ส้นเท้าแตก


เกิดเป็นผู้หญิงอย่างเรา ก็ต้องสวยไปทั้งตัวตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าเลยจริงไหมคะ แฟชั่นสำหรับสาวๆ เราจึงมีให้เห็นได้ตั้งแต่เหนือเส้นผมขึ้นไปก็คือหมวกต่างๆ จนกระทั่งถึงเท้าของเราก็คือรองเท้าในรูปแบบต่างๆ ที่มีให้เห็นกันตั้งแต่ปกปิดมิดชิด จนถึงเปิดให้เห็นกันเกือบหมด (เอ่อ... เปิดเท้านะคะ สาวๆ เปิดอย่างอื่นมากไปไม่ถูกที่ไม่ถูกเวลา มันก็ไม่งามหรอกจริงไหมคะ) มาถึงทีนี้ ถ้าเท้าของสาวๆ ไม่อยู่ในสภาพสวยนัก โดยเฉพาะตรงส้นเท้าที่หากแห้งแตกเป็นรอย เหมือนแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์แล้วล่ะก็ คงไม่อยากใส่รองเท้าประเภทเปิดส้นให้ใครต้องก้มมามองหาลายแทงหรอก จริงไหมคะ มาดูกันดีกว่าว่า ส้นเท้าแตกนี้มีสาเหตุมาจากอะไร และเราสามารถป้องกันหรือแก้ไขอะไรได้บ้างค่ะ

รู้จักกับส้นเท้าสักนิด

เห็นหัวข้อแล้วอย่าตกใจไปนะคะ เราว่ากันเฉพาะเรื่องของสรีรศาสตร์เท่านั้นค่า คือส้นเท้าของเรา ก็เหมือนกับบริเวณผิวหนังที่อื่นๆ แหละค่ะ คือประกอบไปด้วยเนื้อ ชั้นหนังแท้ และชั้นหนังกำพร้า ตรงชั้นหนังกำพร้านี้เองที่เมื่อได้รับการดูแลหรือใช้งานที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดปัญหาคือผิวบริเวณนั้นจะแห้งและแตกออก ทีนี้ก็อย่างที่สาวๆ ทุกคนคงพอจะทราบกันดีก็คือ ผิวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนผิวแห้ง บางคนผิวชุ่มชื้น บางคนผิวหนา ในขณะที่บางคนก็ผิวบาง ความแตกต่างของลักษณะผิวนี้เองที่ทำให้ความรุนแรงในการเกิดปัญหาส้นเท้าแตกของสาวๆ แต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมีปัญหาเอามากๆ ในขณะที่บางคนไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยก็มี ผิวหนังบริเวณส้นเท้าของคนเรานั้นจะค่อนข้างหนาเนื่องจากต้องรับภาระ รับน้ำหนักมาก ดังนั้นหากเกิดการกรอบแตก รอยแตกก็จะกลายเป็นที่สะสมของฝุ่น เชื้อโรค ทำให้มองดูไม่สวยงาม และอาจเกิดปัญหากับสุขภาพอย่างอื่นได้อีกค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าแตก

เป็นเรื่องตลกแบบขำไม่ออกสักเท่าไรที่ปัญหาส้นเท้าแตกนั้นมักจะมาจากการกระทำของตัวเราเองไม่ใช่ใครอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยที่อากาศร้อน เรามักจะใส่รองเท้าแตะ รองเท้าเปิดส้น และเราก็มักจะเดินในบ้านของเราด้วยเท้าเปล่า การใส่รองเท้าเปิดส้นและเดินในพื้นที่เย็น เช่นในบ้านหรือรองเท้าส้นเปิดและเดินในออฟฟิศที่ทำงาน ซึ่งจะทำให้ส้นเท้าได้รับความเย็นและทำให้ผิวบริเวณนั้นแห้ง นอกจากนี้แล้ว น้ำหนักตัวที่มากเกินไป และการใส่รองเท้าที่คุณภาพไม่ดี จะทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าได้รับแรงกระแทกมาก ทำให้ผิวบริเวณนั้นหนาขึ้น ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

การป้องกันส้นเท้าแตก

เมื่อเราทราบสาเหตุต่างๆ ทีทำให้ส้นเท้าแตกแล้ว การป้องกันก็เป็นเรื่องตรงไปตรงมา คือทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นเหตุเหล่านั้นท่านั้นเองค่ะเช่น

1) พยายามหลีกเลี่ยงน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ซึ่งจะทำให้ส้นเท้าต้องรับภาระมากขึ้น หนังบริเวณส้นเท้าจะหนาขึ้นและมีโอกาสกรอบแตกได้ง่ายขึ้น (อ่านบทความเรื่อง ลดน้ำหนัก ที่นี่)

2) หลีกเลี่ยงรองเท้าประเภทที่ทำร้ายส้นเท้า พยายามเลือกชนิดที่มีบริเวณส้นเท้าที่นุ่มนวล และดีไปกว่านั้นก็คือใส่ถุงเท้านุ่มๆ ด้วย เป็นการช่วยส้นเท้าของเราได้ดีมากๆ เลยค่ะ

3) พยายามรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังบริเวณส้นเท้า อย่าให้สัมผัสกับความเย็นโดยตรง ทุกครั้งที่เป็นไปได้ให้พยายามใส่รองเท้าเพื่อเดิน (ในออฟฟิศ ในบ้าน) เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความเย็นที่ทำให้ผิวบริเวณส้นเท้าเสียความชุ่มชื้นไป

4) หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ บนพื้นที่แข็งกระด้าง เพราะทำให้ส้นเท้าต้องรับภาระหนัก สุดท้ายเมื่อไม่ไหวก็เกิดการปรับผิวบริเวณนั้นให้หนาขึ้นๆ ซึ่งทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น

5) สวยจากด้านใน เหตุผลหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้ส้นเท้าแตกก็คือการขาดความชุ่มชื้นของผิวและหนังบริเวณส้นเท้า การดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะไปทางค่อนข้างมาก จะทำให้ผิวชุ่มชื้นได้จากภายในตัวของเรา สามารถช่วยเรื่องของส้นเท้าแตกได้เช่นกันค่ะ

การแก้ไขส้นเท้าแตก

ถึงตรงนี้ เพื่อนๆ สาวๆ หลายท่านอาจจะคิดในใจว่า ขอวิธีแก้ไขก่อนได้ไหมล่ะ เพราะตอนนี้มีปัญหาอยู่เลย เดี๋ยวให้จัดการแก้ปัญหาเสร็จแล้วค่อยกลับไปจัดการป้องกันเจ้าปัญหาของส้นเท้าแตกนี้กันอีกที คำตอบคือได้เลยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าทำอย่างไร โดยหลักการแล้วก็คือการทำให้ผิวบริเวณนั้น เรียบ กำจัดเอารอยแตกออกไป จากนั้นกเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มนวล และคอยระวังไม่ให้ผิวหนังไม่หยาบหนามากเกินไป ซึ่งทำได้โดยวิธีต่างๆ ดังนี้ค่ะ

1) ก่อนนอน ให้แช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 15 นาที จากนั้นขัดถูส้นเท้าที่แตกด้วยหินสำหรับขัดส้นเท้า ตรงนี้ต้องระวังอย่าถูแบบสุดแรงด้วยความแค้นที่่ทำให้เราสวยน้อยลงไปนะคะ คือถูแต่อย่าไประคายรบกวนรอยแตก การถูนี้จะช่วยลอกเอาเซลล์ของผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวที่เหลือเป็นผิวที่นุ่มนวล จากนั้นก็ล้างเท้า ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เช็ดให้แห้ง และทาครีมสำหรับทาเท้าซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ก่อนนอนก็สวมถุงเท้าเอาไว้ จะทำให้ส้นเท้าคงความชุ่มชื้นอยู่ตลอดคืน ทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้ส้นเท้าหายจากอาการกรอบแตกได้

2) นำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณที่ส้นเท้าแตก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที กรดผลไม้และสารอาหารในเปลือกกล้วยจะช่วยลอกผิวและสมานส้นเท้าที่แตกได้เป็นอย่างดี

3) แช่เท้าในน้ำสบู่ แล้วใช้วาสลีน 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1 ลูกถูส้นเท้า

4) แว็กซ์เท้าด้วยพาราฟิน โดยการผสมพาราฟินกับน้ำมันเมล็ดมัสตาร์ด แล้วทาตรงส่วนที่มีรอยแตก ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกในตอนเช้า ทำต่อเนื่องประมาณ 10-15 วัน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรอยแตกและผิวบริเวณส้นเท้าที่เคยแห้งแตกค่ะ

ส้นเท้าแตก เป็นปัญหาที่น่ารำคาญ บางครั้งทำให้ไม่มั่นใจจนเสียบุคคลิกได้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สาวๆ เข้าใจสาเหตุของปัญหา และสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาจิ๊บๆ แต่น่ารำคาญใจนี้ได้นะคะ