ในบทความที่แล้ว เราได้พูดถึงการเป็นสิวที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีวัยเกินที่เรียกว่า วัยรุ่นตอนปลาย ไปแล้ว ว่าอาจจะเป็นเพราะสาเหตุใด (อ่านเรื่อง สาเหตุสิวในวัยผู้ใหญ่ ที่นี่) คราวนี้เรามาดูกันว่า จะต้องจัดการแก้ไขเจ้าปัญหาสิวในวัยทำงานอย่างไร เพราะว่ายิ่งเราทำงาน ก็จะต้องพบปะผู้คน ออกจากบ้าน จะเที่ยวหลบๆ หลีกๆ หรือเอาพลาสเตอร์ลายการ์ตูนแปะหัวสิวแนวน่ารักแบบตอนวัยรุ่นคงไม่ได้แล้ว จริงไหมคะว่าแล้วก็ไม่รอช้า สิ่งแรกที่จะต้องดูแลก็คือการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาสิวๆ จากตอนที่แล้วว่ามีสาเหตุอย่างไร เราก็แก้ไปตามนั้น ลองมาดูกันเลยนะคะว่าต้องทำอะไรบ้าง
1. หยุดเครื่องสำอางก่อน
สารพัดเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ อาจจะเป็นภัยต่อผิวหน้าเราก็ได้ ก็จัดการเลิกใช้เสียก่อน ใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยจากผิวหน้า ไม่มีสารเคมีแปลกปลอมผสมอยู่ ไม่มีน้ำหอมเจือปน (เพราะส่วนมากจะมาพร้อมกับแอลกอฮอล์) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสาวๆ สังเกตได้ว่า เริ่มเป็นสิวเมื่อเริ่มใช้เครื่องสำอางตัวไหน เครื่องสำอางนั้นก็อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้นะคะ
2. หลีกเลี่ยงมลพิษ
บรรดาควันบุหรี่ น้ำมันต่างๆ รวมถึงน้ำมันที่ทอดอาหารต่างๆ ที่กระเด็นไปมาใส่ตัวเราก็ด้วยนะ ฝุ่นควันตามท้องถนน พวกนี้เป็นสิ่งที่ผิวบอบบางของสาวๆ บางคนจะแพ้ได้ ก็จะต้องหลีกเลี่ยงโดยการไม่ไปอยู่ในบริเวณที่มีสภาพแวดล้อมแบบนั้น หรือหากจำเป็นจริงๆ ก็ต้องอยู่โดยใช้เวลาที่สั้นที่สุด และ/หรือ มีการป้องกันที่ดี
3. อย่าเครียด
ในเรื่องงาน ก็ต้องวางแผนการทำงานให้ดี ในการแก้ปัญหาต่างๆ รวมทั้งเรื่องสุขภาพผิวเองด้วย บางคนพอเป็นสิวก็เลยเครียด พอเครียดก็เป็นสิวเพิ่ม พอเป็นสิวเพิ่มคราวนี้เลยเครียดหนักเข้าไปอีก กลายเป็นวงจรสิวมหากาฬไปเสีย ก็ต้องทำใจให้สบาย คิดว่าสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นได้ก็หายได้ เราเพียงแต่ดูแลให้ดี ส่วนเรื่องงานก็วางแผนให้ดี ปล่อยวางเสียบ้างค่ะ
4. ระมัดระวังเรื่องอาหาร
อาหารที่มันมาก อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตมาเช่นอาหารทอด อาหารไขมันสูงต่างๆ แบบนี้ทำให้เกิดการใช้งานไม่หมดแล้วคั่งค้างอยู่ในลำใส้ สภาพการณ์แบบนี้จะทำให้เกิดวัสดุที่เป็นพิษค้างอยู่ในลำใส้ได้ สาวๆ ควรทานอาหารที่มีกากใยตามธรรมชาติด้วยเช่น ผัก ผลไม้ หรือที่มีเส้นใยธรรมชาติแบบละลายได้ นอกจากนั้นก็ควรจะดื่มน้ำในระหว่างวันให้มากๆ ด้วย อ่อ น้ำผลไม้ปั่นต่างๆ ที่มีใยอาหารปนอยู่ก็ดีมากนะคะ
5. วิตามินแก้สิว
สิวบางชนิดทำให้เกิดการอักเสบระหว่างที่เป็น และยังสามารถสร้างรอยทิ้งไว้บนผิวหน้าได้หลังจากที่หายแล้ว แร่ธาตุและวิตามินบางชนิดจะเป็นประโยชน์ต่อผิวหนังท้้งขณะที่เป็นและเมื่อสิวหายแล้วเช่น แร่สังกะสีเป็นประโยชน์ในการลดการอักเสบ อาจจะรับประทานในปริมาณ 30-50mg ต่อวันเพื่อต่อสู้กับสิวก็ได้ นอกจากนั้นก็อย่าลืมวิตามินเอ ทีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี จะมีอานุภาพในการช่วยในการซ่อมบำรุงผิวและลดการผลิตไขมัน (Sebum) และคีราติน (Keratin) ดังนั้นการรับประทานวิตามินเอในปริมาณ 10,000 จะช่วยได้ดีค่ะ
6. รักษาความสะอาดให้ดี
สาวๆ จะต้องทำความสะอาดหน้า ล้างหน้าให้ดีวันละราวๆ 3-4 ครั้ง คือสองครั้งเมื่อตื่นนอนและก่อนเข้านอน และอีก 1-2 ครั้งระหว่างวัน ฝุ่นละอองและซากเซลล์ที่ตายแล้วของผิวหน้าเป็นสิ่งที่เร่งให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้นไปอีก และระหว่างวันก็อย่าเผลอเอามือไปจับหน้าโดยไม่รู้ตัว เพราะมือนั้นมีสิ่งสกปรกเปื้อนติดอยู่ เมื่อจับที่ผิวหน้าก็จะไปอุดตันรูขุมขนบนใบหน้าได้ง่าย นอกจากนั้นก็อย่าไปแกะ แคะ แงะ บีบ สิวเพื่อความเมามัน นอกจากผิวส่วนที่เป็นสิวจะช้ำ กลายเป็นแผลหนักกว่าเดิม และอาจจะทำให้เกิดร่องรอยที่มากกว่าปกติเมื่อสิวหายแล้ว ก็ยังทำให้ผิวหน้าบริเวณอื่นสกปรกจากมือและนิ้วที่พยายามบีบนั้นด้วย
เป็นอย่างไรคะเพื่อนๆ สาวๆ ในวัยทำงาน ไม่ยากเลยนะคะสำหรับการจัดการกับผิวหน้าของเราเมื่อเป็นสิว จะเห็นได้ว่าใน 6 ข้อข้างบนนั้นจะไม่ได้พูดถึงการใช้ยาทา แต้ม สิวใดๆ ทั้งนี้สาวๆ ย่อมสามารถเลือกใช้ได้โดยขอให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไว้ใจได้ และถูกกับใบหน้าของเราเอง เนื่องจากว่าต่างคนก็ต่างผิวพรรณ อาจจะเหมาะสมไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถระบุไว้ในที่นี้ได้ค่ะ