ชีวิตของเราทุกวันนี้อยู่ใกล้ความเครียดเข้าไปทุกที แล้วเพื่อนๆ ล่ะเครียดกันบ้างหรือเปล่า บางคนอาจจะมองหน้าตัวเองในกระจกแล้วบอกว่า ก็ฉันไม่ได้หน้านิ่้วคิ้วขมวดอยู่ ดังนั้นก็น่าจะโอเคอยู่นะ แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะการหายใจของเราจะฟ้องออกมาว่าเรามีความเครียดตกค้างอยู่การศึกษาเกี่ยวกับความเครียด
คนเรานั้นเกิดความเครียดขึ้นได้ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ส่วนมากแล้วก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์รอบข้าง เช่น ถ้าเรามีโอกาสได้นั่งฟังเพลงเพราะๆ ในบรรยากาศที่ดีเราก็คงสบายอกสบายใจ และถ้าเราต้องทำงานซึ่งผิดพลาดไม่ได้ หรือหากมีปัญหาแล้วจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง (เช่นนั่งทำข้อสอบ) เราย่อมแสดงอาการเครียดออกมาในกิจกรรมอย่างหลังนี้เป็นแน่ และมีการศึกษาไว้ว่าในสภาวะที่เกิดความเครียดที่ว่านี้ จะทำให้ความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น และ...
ลมหายใจมันฟ้อง
ในสภาพที่เกิดความเครียดแล้ว นอกจากความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่ฟ้องได้ชัดเจนด้วยก็คือลมหายใจของเราโดยมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นผิดไปจากยามปกติเป็นอย่างมาก นั่นคือมีสารจำเพาะสองอย่างถูกปล่อยออกมากับลมหายใจ คือสารแสดงความเครียดที่เพิ่มขึ้นกว่า 150% เจ้าสารแสดงความเครียดนี้ประกอบไปด้วยเซโรโทนิน (serotonin) ซึ่งมีการศึกษาไว้ว่าเกี่ยวข้องกับความเครียดฉับพลันที่เกิดขึ้น และสารอีกตัวคือ 2-เมธิลเพนตาเคเคน ซึ่งถูกหมายหัวว่าเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดภายในตัวเราเสียด้วยสิ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราพบว่าลมหายใจของเราเองนั้นกลับทำท่าจะทำร้ายตัวเราเองเพราะการศึกษาก่อนหน้าทำให้เรารู้ว่าสารแห่งความเครียดนี้เป็นเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น วัณโรค, มะเร็ง, หืดหอบ, และโรคระบบหายใจได้ด้วย และแม้ว่าลมหายใจเราจะทำตัวคล้ายกับจะทรยศเจ้าของอย่างเรา การรู้เท่าทันก็ทำให้เราสามารถแก้ไขได้ค่ะ
การแก้ไขลมหายใจแก้เครียด
เรามีวิธีจัดการกับลมหายใจของเราให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นและไม่สร้างปัญหาทางสุขภาพของเราได้โดยแบ่งออกเป็น 3 วิธีคือ
1. หายใจเข้าออกให้ลึกที่สุด
การหายใจลึกมากๆ จะเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (vagus nerve) ซึ่งทำให้สมองสงบลง การหายใจลึกๆ นี้ทำได้โดยหายใจออกจนกระทั่งท้องของเราแฟบลงไป (ประมาณว่าสะดือยุบเข้าไปมากๆ) จากนั้นก็หายใจเข้าให้ลึกที่สุดเพื่อทำให้ระบบทางเดินหายใจได้รับสารไนตริกออกไซด์ที่มีประโยชน์ต่อเรา
2. ใช้กลิ่นเข้าช่วย
ข้อนี้คล้ายกับแนวทางการรักษาหรือลดความเครียดด้วยกลิ่น กลิ่นที่ดีและช่วยได้มากก็คือกลิ่นไม้จันทน์ (sandalwood) อาจจะลองหาน้ำหอมที่เป็นกลิ่นนี้ติดเอาไว้ หยดลงบนข้อมือหรือหน้าอกสักสองหยดก็จะช่วยได้มาก จากนั้นก็หายใจออกลึกๆ และหายใจเข้าให้ลึกหลายๆ ครั้ง จะช่วยได้มากทีเดียว
3. เดินไปหายใจไป
อ้าว เพื่อนผู้อ่านอาจจะคิดในใจว่า แล้วจะให้เดินแบบกลั้นหายใจหรืออย่างไร ความจริงก็คือต้องหายใจแต่ต้องหายใจแบบถูกวิธีด้วย เพราะวิธีหายใจที่ถูกต้องนี้จะสามารถลดความเครียดลงได้ นั่นคือในขณะที่เดินให้ค่อยๆ สูดลมหายใจแบบสั้นๆ จำนวน 4 ครั้งโดยสูดหนึ่งครั้งทุกก้าวที่เดินไป จากนั้นก็หายใจออกสั้นๆ จำนวน 4 ครั้งโดยหายใจออกหนึ่งครั้งทุกก้าวที่เดินไป จะทำใหลดความเครียดลงไปได้มากในเวลารวดเร็ว
ความเครียดทำให้ร่างกายของเราเป็นภัยต่อตัวเราเองได้ ดังนั้นอย่าลืมบริหารความเครียดอย่าให้มันทำให้เราเดือดร้อนนะคะ
