ถ้าเราไปเดินตามห้างใหญ่ๆ เราอาจจะเคยเห็นผ้าขนหนูสารพัดสี สารพัดขนาด วางขายอยู่เพื่อให้ได้เลือกซื้อ สำหรับเพื่อนบางคนอาจจะไม่เคยสังเกตว่าจริงๆ แล้วผ้าเหล่านั้นมีหลายขนาด เอาเป็นอย่างน้อยก็เป็นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กที่ดูเหมือนไม่น่าจะเช็ดทั้งตัวได้แห้งแน่ๆ ว่าแต่ ผ้าเหล่านั้นมีไว้ทำอะไรกันเราบางคนอาจจะใช้ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวในการเช็ดทุกอย่างบนตัวของเรา ไม่ว่าจะอาบน้ำก็ใช้ผืนนี้ล่ะเช็ด จะสระผมก็ใช้เช็ดผมด้วย หรือจะล้างหน้าเสร็จก็ใช้ผ้าผืนเดียวกันเช็ดหน้าอีก เรียกว่าผืนเดียวสารพัดเช็ดกันเลย จริงๆ แล้วก็คงไม่ใช่เพราะไม่มีเงินซื้อผ้าหลายผืนหรอก แต่เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องแยกหรือรวมนี้ จะว่ากันตามจริง ถ้าผ้าขนหนูของเราสะอาดจริงๆ เรียกว่าซักตลอดเวลา การใช้แบบสารพัดเช็ดก็คงพอจะอนุโลมให้อภัยกันได้ แต่ถ้าสองสามวันหรือแม้แต่สัปดาห์หนึ่งได้รับการซักเสียครั้งหนึ่งล่ะก็ เป็นคนละเรื่องกันเลยนะคะ
การใช้ผ้าผืนเดียวเช็ดปะปนกันไปมา ก็เหมือนกับการส่งผ่านสารพัดสารหรืออนุภาคจากส่วนต่างๆ ของร่างกายเราเข้าหากัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันจากใบหน้า เส้นผม ก็ไปติดที่เส้นผมหรือใบหน้า หรือครีมนวดผมที่หลงเหลือตกค้างอยู่ก็ไปติดที่ใบหน้าหรือตามตัว น้ำมันตามผิวตัวก็ไปติดบนใบหน้า เรียกว่าปนกันไปหมด (ขนาดผู้เขียน เขียนเองยังงงเองเลยค่ะ) สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความไม่สะอาดและที่สำคัญก็คือ "สิว" ที่สามารถเกิดจากความไม่สะอาดนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสิวบนใบหน้าหรือตามตัวก็ตาม
ดังนั้นแล้วถ้าเป็นไปได้ ลองแยกผ้าขนหนูต่างๆ ออกจากกันสิคะ ผ้าผืนใหญ่ก็ไว้ใช้เช็ดตัว ผ้าผืนกลางขนาดรองลงมาก็ไว้สำหรับเช็ดผม (ไม่ว่าจะหลังอาบน้ำหรือสระผม) และผ้าขนาดเล็กสุดก็ไว้สำหรับเช็ดหน้า เมื่อแยกกันและเราหมั่นทำความสะอาดผ้าเหล่านี้ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อนๆ อาจจะแปลกใจได้ว่าทำไมสิวจึงลดลงได้ค่ะ