คุณล้างหน้าผิดวิธีหรือเปล่า


การล้างหน้านั้นเป็นกิจกรรมปกติของผู้หญิงทุกคนที่ทำกันเป็นประจำ เมื่อดูผิวเผินแล้วก็เป็นเรื่องที่ทำกันได้แบบไม่ต้องคิดอะไรนัก แต่ถ้าเรารีบร้อน หรือไม่รู้อะไรบางอย่างอย่างครบถ้วน ก็เป็นไปได้ที่จะข้ามขั้นตอนที่สำคัญและทำให้การล้างหน้านั้นไม่เกิดประโยชน์เต็มที่
  • สารพัดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ในการล้างหน้า
ถ้าเราพิจารณาดูกิจกรรมง่ายๆ อย่างการล้างหน้าให้ดี จะเห็นว่าประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลายอย่างที่จะทำให้ผลงานออกมาสมบูรณ์ เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาในการล้าง ระยะเวลาที่ต้องใช้ สบู่หรือน้ำยาที่ใช้ล้าง วิธีการล้าง น้ำที่ใช้ล้าง นี่ยังไม่รวมถึงคนใกล้ตัวที่อาจจะคอยเร่งว่าเมื่อไรจะล้างหน้าเสร็จ หรือคอยส่งกำลังใจเชียร์ (หรือแช่งก็ไม่รู้ได้) ให้ออกมาจากห้องน้ำเร็วๆ ก็มีอีก แต่ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ถ้าเรารู้เท่าทันก่อนว่าการล้างหน้าที่ผิดวิธีมีอะไรบ้าง ก็ย่อมสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งผิดพลาดเหล่านี้ไปได้ มาดูกันว่าการล้างหน้าที่ผิดวิธีมีอะไรได้บ้าง

1. รีบร้อนเกินไป
สำหรับคนที่เป็นสิวง่าย ควรจะล้างหน้าเป็นประจำให้ทั่วเวลาตื่นและก่อนนอน การล้างหน้าจะต้องใช้น้ำยาล้างหน้าหรือสบู่ที่เหมาะสมล้างเป็นเวลานานพอสมควรก่อนจะล้างออก และล้างให้ทั่วใบหน้าโดยใช้นิ้วและ/หรือมือนวดเป็นวงกลมเล็กๆ ให้ทั่ว รวมทั้งบริเวณรอบๆ ดวงตาด้วย จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น การรีบร้อนล้างหน้าในเวลาสั้นเกินไปจะไม่สะอาดพอนะคะ

2. ล้างมากเกินไป
นี่ก็ตรงกันข้ามกับข้อแรก มาคราวนี้คุณใจเย็นมากหรืออาจจะออกแนวย้ำคิดย้ำทำสักหน่อย หรือไม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะล้างมากน้อยแค่ไหนจึงจะสะอาด ก็เลยล้างแล้วล้างอีก เรียกว่าวันหนึ่งล้างกันแบบเต็มสูตรอยู่ 4-5 รอบ แบบนั้นก็เกินความจำเป็นไปสักหน่อย (การล้างแบบเต็มที่ควรทำเพียง 2 ครั้งต่อวันก็พอ) การล้างหน้ามากเกินไปทำให้ผิวแห้ง เกิดการระคายเคือง และอักเสบได้ นอกจากนี้ก็อาจจะไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันของผิวซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติที่ผิวจะชดเชยน้ำมันที่หายไป และผลก็คือเราจะเป็นสิวได้ง่ายขึ้น (อ้าว เป็นอย่างนั้นไป) ดังนั้นอย่าล้างหน้ามากเกินไปนะคะ

3. ขัดถูมากเกิน
หน้าเรานะคะไม่ใช่ต้นมะขามที่จะถูมากๆ เผื่อจะเห็นเลข (เว็บไซต์ไม่สนับสนุนการพนันขันต่อทุกประเภทนะคะ) บางคนอาจจะใช้วัสดุล้างหน้าที่มีการขัดลอกผิวด้วย และคิดไปเองว่าการลอกหน้านั้นยิ่งลอกมาก ยิ่งถูมากและรุนแรงยิ่งทำให้รูขุมขนสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดนะคะ การขัดผิวมากเกินไปทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคงสครับผิวแต่เพียงพอดีค่ะ

4. เลือกน้ำยาหรือสบู่ที่แรงเกินไป
เรียกว่าเป็น ของแรง ก็ได้เลยทีเดียว ใบหน้าของเรานั้นเป็นผิวที่บอบบางกว่าที่อื่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าต่างๆ ที่ทำงานได้อย่างนุ่มนวลอาจจะทำให้รู้สึกนุ่มนวล จนบางคนคิดไปว่ามันอ่อนเกินไปและไม่ได้ผล (คิดไปนั่น) และไปเปลี่ยนใช้ของที่แรงกว่า ซึ่งถ้าะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ผลิตภัณฑ์ใดที่ทำให้เราเริ่มรู้สึกยุบยิบเหมือนโดนกัดแล้วล่ะก็ ผลิตภัณฑ์นั้นรุนแรงเกินไปสำหรับผิวของเราแล้วล่ะ การรุนแรงนี้จะทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และเพิ่มการสร้างน้ำมันที่ผิว และสุดท้ายก็คือเป็นสิวมากขึ้นได้

5. ลืมลอกผิว
เราควรลอกผิวสักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (ไม่เกิน 2 ครั้ง) ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับการลอกผิวไม่ว่าจะเป็นสครับหรือแปรง/แปรงไฟฟ้าสำหรับขัดผิว แปรงไฟฟ้าบางอย่างสามารถทำความสะอาดผิวได้ดีและสามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกจากรูุขุมขนได้โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ถ้าไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ก็สามารถใช้ผ้าเช็ดหน้าก็ได้ซึ่งก็ต้องไม่ลืมซักให้สะอาดหลังจากการนำมาขัดผิวหน้าทุกครั้งด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าขัดลอกผิวมากเกินไป อะไรที่เกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นล่ะค่ะ

6. ลืมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังการล้างหน้า
สบู่ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าต่างๆ ล้วนทำให้ผิวหน้าแห้งได้ทั้งนั้น หลังการล้างหน้าจึงควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อให้ผิวนุ่มนวลและชุ่มชื้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตอนกลางคืนเพราะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของผิวและบรรดาตัวยาในผลิตภัณฑ์สามารถซึมลงผิวได้ในเวลานาน ควรเลือกผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา จะได้เพิ่มได้แบบพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไปค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อนๆ ล้างหน้ากันถูกวิธีอยู่หรือเปล่า ถ้ายังไม่ถูกนักก็จัดการเปลี่ยนวิธีเสียนะคะ จะได้มีผิวที่สดชื่นและสดใสไปนานๆ ค่ะ