คอลลาเจนเป็นรากฐานหนึ่งที่ทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อของเนื้อที่อยู่ด้านล่างของชั้นหนังกำพร้าลงไปและมีความสำคัญที่ทำให้ดูว่าผิวนั้นมีความเยาว์วัยแค่ไหน แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนเองได้น้อยลง นอกจากนั้นยังไม่พอ เอนไซม์บางชนิดที่เราสร้างขึ้นยังทำลายคอลลาเจนลงอีกผลที่เกิดขึ้นจริงทำให้ผิวของเราบาง ห่อเหี่ยว ขนาดความมีน้ำนวล และเริ่มเกิดสิ่งที่เรียกว่า ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น (แล้วก็ ตีนกา นั่นล่ะค่ะ) แสงแดด มลพิษต่างๆ อนุมูลอิสระ และการสูบบุหรี่ล้วนเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจนลงไปได้อีก เรียกว่าซ้ำเติมกันก็ไม่ปานนั่นเอง
คอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้น
ปกติแล้วร่างกายของเราจะสร้างคอลลาเจนขึ้นเองได้ ก็ลองดูที่แก้มยุ้ยๆ ของเด็กตัวเล็กๆ สิคะว่าเด้งดึ๋งน่าฟัดขนาดไหน นั่นล่ะค่ะผลจากการสร้างคอลลาเจนของร่างกายของคนเราตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นล่วงเลยเข้าระดับหลายสิบปี (เช่น 35 ปี) ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้น้อยลงมาก นอกจากนั้นคุณภาพของคอลลาเจนที่สร้างขึ้นก็ไม่ได้ดีเหมือนกับตอนที่อายุยังน้อย
เรื่องดียังพอมี
ในเมื่อร่างกายของเราผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น เราก็ยังสามารถเพิ่มมันได้โดยการเติมเข้าไปตรงๆ ที่ผิว แต่นอกจากนั้นก็ยังมีทางอื่นนั่นก็คือการเติมทางอ้อมโดยผ่านทางอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณของคอลลาเจนที่ผิวได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารประเภทไหนบ้างที่ช่วยทำให้ร่างกายของเราสร้างคอลลาเจนไปจนถึงผิวหนังของเราได้
1. ปลา
ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไรที่สาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบปลาดิบทั้งหลายจะมีผิวพรรณดีขนาดนั้น ก็เพราะปลาเช่น ทูน่า แซลมอน อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะเซลล์ผิวหนังจะถูกหุ้มห่อด้วยเนื้อเยื่อของไขมันเพื่อการป้องกัน เมื่อเซลล์มีความแข็งแรงสมบูรณ์ ก็ย่อมสามารถทำให้ผิวของเรามีโครงสร้างที่แข็งแรงไปด้วย
2. ผักสีแดง
เป็นตัวช่วยป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ ผักแบบนี้ก็เช่น มะเขือเทศ พริกแดง (พริกหยวกแดง) ที่มีไลโคพีนที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ไลโคพีนยังทำตัวเป็นตัวป้องกันแสงแดดตามธรรมชาติอีกด้วย จะช่วยป้องกันผิวในขณะที่เพิ่มระดับของคอลลาเจนด้วย
3. ผักใบเขียวเข้ม
ผักเหล่านี้มีวิตามินซีจำนวนมาก จะช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนได้ ผักสีเขียวเข้มก็เช่น ผักโขม คะน้า เป็นต้น นอกจากนั้นวิตามินซียังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีจะช่วยลดความรุนแรงของเอนไซม์ที่ไปทำลายคอลลาเจนลง และทำให้คอลลาเจนมีความแข็งแรงขึ้นด้วย
4. ผักสีส้ม
เช่น แครอท มีหน้าที่สร้างและซ่อมแซมฟื้นฟูความเสียหายของผิว ผักเหล่านี้มีวิตามินเอจำนวนมาก วิตามินเอมีคุณสมบัติในการสร้างและซ่อมแซมฟื้นฟูคอลลาเจนที่ได้รับความเสียหาย
5. ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ไม่ว่าจะเป็นน้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ ก็ได้ จะมีเจนนิสตีน (genistein) ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและช่วยหยุดการทำงานของเอนไซม์ที่จะไปทำลายคอลลาเจนด้วย
6. ผลไม้ตระกูลส้ม
เป็นที่รู้กันว่าทั้งส้ม มะนาว หรือผลไม้ตระกูลส้มทั้งหลายนั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยทำให้กรดอะมิโน (lysine; ไลซีน และ proline; โปรลีน) เปลี่ยนเป็นคอลลาเจนได้ นอกจากนั้นวิตามินซีที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศจะช่วยจัดการกับอนุมูลอิสระทั้งหลายที่คอยจะทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน (สารที่ทำให้ผิวเด้งมีสปริง) ในผิวหนังลง
7. โปรตีน
แหล่งโปรตีนใหญ่ที่หาได้ง่ายและไม่แพงก็คือ ไข่ นั่นเอง โปรตีนเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย และนอกจากนั้นในขณะที่เรารับประทานไข่ ไข่ขาวยังเป็นแหล่งสำคัญของไลซีนและโปรลีนและคอลลาเจนอีกด้วย ดังนั้นการรับประทานไข่ขาวจึงเป็นการช่วยให้ร่างกายเพิ่มระดับคอลลาเจนได้ และสำหรับบางคนที่ไม่อยากรับประทานไข่มากนักก็อาจจะเลือกกินถั่วซึ่งเป็นแหล่งของไลซีนด้วยก็ได้
เมื่อทราบอาหารที่เป็นแหล่งของคอลลาเจนแลลนี้แล้ว เพื่อนๆ เล็งอาหารประเภทไหนที่จะช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้นไว้บ้างหรือยังคะ