ผลข้างเคียงของเบนโซอิลเพอรอกไซด์ (Benzoyl Peroxide)


ในบทความเรื่อง ยารักษาสิว เราได้พูดเรื่องเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และในบทความเรือ่ง ยาปฏิชีวนะกับการรักษาสิว เราได้พูดเรื่องยาเบนซามัยซิน (Benzamycin) ซึ่งเป็นการผสมรวมกันระหว่างอิริธโทรมัยซินและเบนโซอิลเพอรอกไซด์ กันมาแล้วถึงสองครั้งสองคราว มาในบทความนี้ เราลองมาดูกันต่อว่า ในการใช้งานเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์เพื่อจัดการกับสิวของเรานั้น จะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่อย่างไร มาลองติดตามกันดูนะคะ

เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์เป็นตัวยาที่ใช้ช่วยรักษาสิวที่บ่อยที่สุดตัวหนึ่ง มีผสมอยู่ในสารพัดยาเกี่ยวกับสิวที่มีขายกันอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด (เช่นยี่ห้อ เคลียราซิล, โปรแอคติฟ) และยังพบในยารักษาสิวที่จำเป็นต้องมีใบสั่งของแพทย์ด้วย เป็นยาที่รักษาสิวที่ใช้กันมานานและได้ผลค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจและมีราคาไม่สูง

ยานี้ทำงานอย่างไร

เรามาดูกันก่อนว่าตัวยา หรือสารเคมีนี้ ทำงานอย่างไร ก็ต้องย้อนไปเรื่องของการเป็นสิวโดยเฉพาะสิวอักเสบที่มีสาเหตุเนื่องมาจากแบคทีเรียที่เรียกว่าโพรพิโอไนแบคทีเรีย (Propionibacteria acne หรือ P. acne) ซึ่งเจ้าแบคทีเรียนี้ไม่สามารถอาศัยหรือมีชีวิตอยู่ในบริเวณที่มีก๊าซออกซิเจนมากๆ ได้ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ทำงานโดยการเติมออกซิเจนจำนวนมากๆ ลงไปในรูขุมขน นั่นก็คือไปฆ่าเจ้าแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวนั่นเอง เมื่อำนวนของแบคทีเรียลดลง การเป็นสิวก็ย่อมจะลดลงไปด้วย ง่ายๆ แบบนี้นี่เองค่ะ
นอกจากนั้นแล้ว เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ยังมีความสามารถในการขจัดซากเซลล์ที่ตายแล้ว ที่เข้าไปฝังอยู่ในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนสะอาดไม่อุดตัน นั่นคือทำให้โอกาสที่จะเกิดสิวน้อยลงด้วย เป็นการป้องกันการเกิดสิวก่อนที่จะเป็นสิวจริงๆ

ข้อควรระวัง

เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติในการฟอกสีอยู่ด้วย ดังนั้นในการใช้งานจะต้องระวังการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เช่นผม ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า เป็นต้น ดังนั้นในการทาก็จะต้องระวังให้ยาแห้งเสียก่อน หรือซึมลงผิวหนังก่อน ก่อนที่จะแต่งตัวหรือนอน ไม่อย่างนั้นเราอาจจะได้ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนที่กระดำกระด่าง เพราะถูกเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ฟอกสีเอานะคะ

ผลข้างเคียง

แม้ว่าจะมีคุณสมบัติที่ดีในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (แถมด้วยความสามารถในการฟอกสีบ้างนิดหน่อย) แต่ก็มีผลข้างเคียงบ้าง ที่พบบ่อยก็คือจะทำให้ผิวแห้งและเป็นขุยบ้าง วิธีแก้ก็คือให้ใช้ครีมเพิ่มความชุมชื้น (เลือกแบบที่ไม่มีน้ำมันนะคะ) เป็นประจำทุกวัน แต่หากอาการยังรุนแรง ก็อาจจะใช้ยาแบบวันเว้นวันก็ได้ แต่หากอาการรุนแรงจริงๆ เช่นมีอาการไหม้ คัน บวม เป็นผื่นแดง เหล่านี้อาจจะหมายถึงอาการแพ้ก็ได้ คงต้องหยุดการใช้ยานี้ก่อนล่ะค่ะ