ขมิ้นกับความงาม


จากบทความคราวที่แล้วในเรื่อง ขมิ้นกับสุขภาพ ที่เราได้แนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักเจ้าเหง้าของต้นไม้ ตัวต้นเหตุที่มักจะทำให้เกิดสีเหลืองๆ ในสารพัดอาหาร พร้อมด้วยรสชาติเผ็ดนิดๆ ขมหน่อยๆ และกลิ่นจำเพาะตัวของขมิ้นกันมาแล้วนะคะ มาในบทความคราวนี้ เรามาดูกันต่อดีกว่าว่า เจ้าขมิ้นเหลืองอ่อน (ที่ไม่ใช่นก?ขมิ้น) นี้ สามารถถูกนำมาใช้ในเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามของสาวๆ เราได้อย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลยดีกว่านะคะ

จากบทความคราวที่แล้ว นอกจากผงขมิ้นจะเป็นสิ่งที่เราได้จากธรรมชาติ มีสีเหลือง มีรสชาติที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้แล้ว ขมิ้นยังมีสารเคมีบางอย่างที่สามารถช่วยรักษาอาการของโรคบางชนิดได้ รวมทั้งมีความสามารถในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา ที่ไม่ต้องการบางอย่าได้ด้วยอีก นอกจากนั้น คนเราก็ยังรู้จักการใช้ขมิ้นมาช่วยในเรื่องความสวยความงามกันมานานแล้วอีกค่ะ

หญิงสาวชาวอินเดียรู้จักที่จะใช้ผงขมิ้นมาช่วยกำจัดขนส่วนเกินและใช้ในการฆ่าเชื้อโรคที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนั้นผงขมิ้นยังได้ชื่อว่าช่วยในการทำให้สภาพผิวดีขึ้น และยังช่วยต่อต้านการแก่ก่อนวัยอีกด้วย ในอินเดีย เนปาล บังคลาเทศ และปากีสถาน ขมิ้นถุกใช้ในการเสริมความงามเจ้าสาวก่อนพิธีแต่งงาน นอกจากนี้ก็มีการใช้ขมิ้นมาพอกผิว โดยเชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนโทนของสีผิวให้ออกเป็นสีแทน (tan) ได้ นอกจากนั้นขมิ้นยังเป็นส่วนประกอบในสูตรของการทำครีมกันแดดบางชนิดด้วย

พูดถึงเรื่องระดับนานาชาติกันไปแล้ว คราวนี้มาดูเรื่องระดับประเทศกันบ้าง ในประเทศไทยเอง ทางรัฐบาลไทยก็ได้มีการให้ทุนวิจัยในโครงการสกัดและแยก เตตราไฮโดรเคอคิวมินอยด์ (tetrahydrocurcuminoids - THC) ออกมาจากขมิ้น สารตัวนี้เป็นสารไร้สีซึ่งอาจจะมีคุณสมบัติในการเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (อ่านเรื่อง สารต่อต้านอนุมูลอิสระคืออะไร ที่นี่) และช่วยทำให้สีผิวอ่อนลง (ก็ ทำให้ขาวขึ้นนั่นล่ะค่ะ) นอกจากนั้นยังอาจจะช่วยในการลดการอักเสบของผิว ซึ่งแน่นอนว่าสารสกัดนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางอย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรบ้างคะ จะเห็นว่าของรับประทานได้ ที่เราอาจจะได้ทานหรือไม่ได้ทานบ้างที่เรียกว่า ขมิ้น ก็มีความดีในตัวที่ช่่วยทำให้ผิวพรรณของสาวๆ เราสดใสและมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นนะคะ บางที เราอาจจะได้มีโอกาสได้ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของขมิ้น หรือสารสกัดจากขมิ้น หรือแม้แต่มีโอกาสได้ผสมเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของขมิ้นไว้ใช้เองก็ได้นะคะ ใครจะรู้ จริงไหมคะ