การลดริ้วรอยด้วยความร้อน


สำหรับสาวๆ สุภาพสตรีทั้งหลายแล้ว รอยเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นบนใบหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าผาก มุมปาก ริมฝีปาก หางตา หรือที่ไหนก็ตามล้วนเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาทั้งสิ้น สิ่งดีที่สุดในการจัดการกับรอยเหล่านี้คือการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่หากการป้องกันนั้นไม่สามารถจัดการได้แล้ว ก็คงต้องทำการลดริ้วรอยเหล่านี้ด้วยวิธีอื่นแล้วล่ะ เรียกว่าต้องมีตัวช่วย และตัวช่วยหนึ่งที่สำคัญและได้ผลก็คือการลดริ้วรอยด้วยความร้อนค่ะ

ตัวช่วยหนึ่งที่สามารถช่วยให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลง มีผลทำให้รอยเหี่ยวย่นต่างๆ เหล่านี้หมดไปก็คือ "ความร้อน" นั่นเองค่ะ แต่ความร้อนที่ว่านี้จะต้องอยู่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ในเวลาที่สมควร โดยไม่มีพิษภัยอื่นร่วมด้วย ดังนั้นสาวๆ ก็คงไม่สามารถหาความร้อนเหล่านี้ได้โดยการออกไปยืนกลางแจ้งหรือผึ่งแดดจัดเพื่อให้ใบหน้าร้อนโดยหวังจะเป็นการลดริ้วรอยด้วยความร้อนด้วยแสงจากพระอาทิตย์ เพราะหากทำแบบนั้นจะทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา ทั้งรังสียูวีที่มีผลเสียต่อสายตา (แม้จะหลับตาก็ตาม) หรือความเป็นไปได้มากที่จะเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือสีผิวที่จะต้องคล้ำลงเป็นธรรมดา เชื่อว่าสาวๆ ก็คงไม่อยากผิวคล้ำดำเข้มมากเกินไปจริงไหมคะ

จึงมีการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อช่วยสร้างความร้อนให้กับผิวของเราเพื่อการลดริ้วรอยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์ หรือคลื่นความถี่สูง (Ultrasonic) หรือคลื่นความร้อน (infrered) เพื่อสร้างความร้อนให้กับผิว ความร้อนนี้จะทำให้ผิวของเราเกิดอาการตกใจเล็กน้อย และสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งคือ คอลลาเจน (collagen) ขึ้นมา เจ้า คอลลาเจนโปรตีนแห่งความงาม นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวของเราเต่งตึง มีสปริง และเมื่อายุเลยวัย 25 ปีไปแล้ว การสร้างคอลลาเจนก็จะลดน้อยถอยลงไป เป็นเหตุทำให้ผิวหนังหมดสภาพความตึง จึงเกิดริ้วรอย หรือรอยย่น แบบที่สาวๆ เราไม่ปรารถนาค่ะ

การวิจัยพบว่า หากให้เลเซอร์เพื่อสร้างความร้อนให้กับผิวที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 วินาที จะทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้มาก แต่ถ้ากระตุ้นผิวด้วยอุณหภูมิสูงขนาดนี้ในเวลาเกินไปเพียง 2 วินาที ก็จะทำให้ผิวเสียหายได้ (เป็นอันตรายกับเนื้อเยื่อ) นอกจากการให้ความร้อนผิวด้วยเลเซอร์แล้ว ก็ยังมีวิธีอื่นที่สามารถสร้างความร้อนได้อีกเช่น คลื่นความถี่สูง หรือคลื่นความร้อน ซึ่งดูจะเป็นวิธีที่อันตรายน้อยกว่า เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดการเพื่อลดริ้วรอยด้วยความร้อนจากแหล่งอื่นแต่ละครั้งนานกว่าเลเซอร์สักหน่อยค่ะ