เรื่องของเส้นผมนั่นกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสาวๆ เราไปทั้งๆ ที่ในสภาพธรรมชาติแล้ว เส้นผมอาจจะมีประโยชน์อย่างอื่นด้วยเช่น ใช้กันฝนเข้ามา หรือปิดบังหนังศีรษะไว้ไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนกับอะไรได้ง่าย ถ้านึกไม่ออกอาจจะลองนึกถึงมนุษย์สมัยโบราณ ที่ต้องนอนกับดินกินกับทราย นอนในถ้ำที่อาจจะต้องนอนกับพื้น การมีเส้นผมนุ่มๆ ไว้รองย่อมเป็นสิ่งทีดีกว่าการวางศีรษะลงไปบนพื้นตรงๆ จริงไหมคะจริงๆ แล้วเส้นผมของเรานั้นประกอบไปด้วยโปรตีนเป็นส่วนใหญ่ และเป็นส่วนของร่างกายที่ไม่มีชีวิต ไม่มีเส้นประสาท เป็นเส้นใยโปรตีนที่ตายแล้ว เราจึงตัดเส้นผมได้โดยไม่เจ็บอย่างไรล่ะคะ เส้นผมที่สมบูรณ์หรือไม่นั้นเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของร่างกายได้อย่างหนึ่งเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะมาลองดูว่าเราจะบำรุงและรักษาเส้นผมได้ง่ายๆ ได้อย่างไร วิธีการก็ไม่ยาก เรายกกันที่สำคัญๆ มาสัก 3 ข้อให้สาวๆ ได้ทำตามนะคะ
1. ให้อาหารที่ดี
เส้นผมที่เราเห็นยาวสลวยสวยพริ้วนั้น เป็นส่วนของร่างกายที่ไม่มีชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม อีกส่วนหนึ่งของเส้นผมคือที่อยู่ภายในรากผมนั้น ยังคงมีชีวิตอยู่และเป็นส่วนของเส้นผมที่ยังคงต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงและเสริมสร้างให้ยาวเพิ่มขึ้นได้ต่อไป ถึงเส้นผมจะเป็นส่วนที่ต้องการอาหาร และสาวๆ เรามักให้ความสำคัญเป็นหนักหนา แต่สำหรับร่างกายของสาวๆ เองแล้ว จะไม่ได้มองเส้นผมว่าเป็นส่วนสำคัญเท่ากับเราหรอกค่ะ เพราะเขามองว่าเป็นเส้นใยโปรตีนที่ตายแล้วเท่านั้น แม้แต่การเสริมสร้างเส้นผมใหม่ให้ยาวกว่าเดิม ร่างกายก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องสำคัญมากไปกว่าอย่างอื่่น เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะแปลงเป็นสารเคมีต่างๆ และทำงานร่วมกับอวัยวะและระบบต่อมไร้ท่อทั้งหลาย สร้างสารเคมีและฮอร์โมนเพิ่มเติมขึ้นมาอีก สารพัดสารเคมีอาหารและฮอร์โมนนั้น จะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะอื่นที่ร่างกายมองว่าสำคัญกว่าเช่น สมอง หัวใจ กล้ามเนื้อ และอื่นๆ ส่วนที่เหลือใช้แล้วนั้นจึงถูกส่งไปให้กับรากผมและเส้นผม ดังนั้นหากสาวๆ ขาดสารอาหารที่สำคัญ ก็จะทำให้เส้นผมอ่อนแอ วิธีการทำให้เส้นผมได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ก็โดยการรับประทานโปรตีน ซึ่งหากรับประทานมากพอจะทำให้เกิดกรดอะมิโนที่เรียกว่าซีสเตอีน (Cysteine) ซึ่งจะรวมตัวกันทำให้เกิดเคราติน (Keratin) ซึ่งมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม และทำให้เส้นผมแข็งแรง นอกจากนั้นเส้นผมยังต้องการ โอเมก้า3 ที่พบได้ในน้ำมันปลา ซึ่งจะทำให้เส้นผมดูเงางามไม่แห้งเฉา
และถ้าคุณมีอาการผมร่วงก่อนวัยอันควร ก็ลองสังเกตดูว่าขาดสารอาหารประเภทธาตุเหล็ก วิตามินดี และไอโดดีน หรือเปล่า เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าธาตุเหล็กจะช่วยบำรุงโลหิต ทำให้เม็ดเลือดแดงลำเลียงอาหารสู่รากผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนวิตามินดีก็คือการได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า และไอโอดีนก็มีในเกลือทะเล ที่เราสามารถหารับประทานได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรับประทานอาหารให้ครบๆ เท่านั้นเอง อย่าอดหรืองดจนขาดสารอาหารนะคะ
2. ระวังความเครียด
ผมที่ร่วงเนื่องจากความเครียดนั้นไม่ได้เกิดจากการที่เราเกาศีรษะมากมายเวลาที่เครียดหรือคิดอะไรไม่ออกหรอกนะคะ แต่ความเครียดนั้นมีผลมากมายต่อระบบสร้างสารเคมีต่างๆ ภายในร่างกาย ความเครียดมากๆ ทำให้ต่อมหมวกไตถูกกระทบทำให้ผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgen) มากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้ผมร่วงศีรษะล้านได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับสตรีที่ตั้งครรภ์ที่ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงคือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำให้สาวๆ ที่กำลังตั้งครรภ์มักจะมีผมดกหนา แต่เมื่อคลอดก็จะเกิดความแปรปรวนของฮอร์โมนทำให้ผมกลับร่วงลงก็มี แต่สาวๆ อย่าคิดพิสดารไปรับประทานยาคุมกำเนิดที่มักจะมีเจ้าฮอร์โมนสองตัวนี้อยู่โดยหวังจะทำให้ผมดกดำเงางามนะคะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เป็นดังปรารถนาก็ได้ เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอาจจะแตกสลายกลายเป็นสารเคมีที่คล้ายฮอร์โมนแอนโดรเจน สุดท้ายกลับกลายทำให้ผมร่วงลงก็มี ดังนั้น ถ้าคุณผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดแล้วมีอาการผมร่วง ก็ต้องลองปรึกษาแพทย์เพื่อหายาที่ไม่มีฮอร์โมนที่กระทบกับความสวยของเส้นผมค่ะ
3. อย่าทารุนเส้นผม
การจัดแต่งทรงบ่อยๆ ด้วยความร้อน ด้วยการย้อมสีผม เป็นสาเหตุที่รุนแรงที่สุดในการทำให้เส้นผมเสียหายได้อย่างรวดเร็วทันใจทีเดียว ความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความร้อนกับเส้นผมที่กำลังเปียกอยู่ หรือน้ำยากัดสีผมต่างๆ ทำให้เกล็ดผมเปิดออก ผมเสียความแข็งแรง ฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่างๆ แทรกซึมเข้าในเส้นผมได้ง่าย โดยหากสาวๆ ทำสีผมมาล่ะก็ ต้องใช้ครีมนวดบำรุงผมกันหนักสักหน่อย แต่ถ้าไม่อยากลำบากมากนักล่ะก็ อย่าทำสีผมให้บ่อยนัก อย่างน้อยควรเว้นระยะสัก 3-4 เดือนเพื่อให้เส้นผมได้พักผ่อนบ้างค่ะ
หวังว่าสาวๆ ผู้อ่าน Womanandkid ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี เพื่อเส้นผมที่สุขภาพดี ดูดี ดูสวยไปนานๆ กันทุกๆ คนนะคะ เพี๊ยง!