สาเหตุและการแก้ไขอาการท้องผูก


ในบทความที่แล้ว เราได้พูดถึง อาการท้องผูก กันไปแล้ว เนื่องจากบางคนอาจจะไม่แน่ใจว่าตัวเองท้องผูกหรือไม่ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของตัวเองที่จะต้องขับถ่ายอย่างยากลำบาก (ก็ชินนี่นะ) และสมมติว่าเพื่อนๆ อยู่ในกลุ่มของผู้ที่มีอาการท้องผูกแล้วล่ะก็ ไม่ต้องตกใจไป ลองมาดูวิธีแก้ไขกันดีกว่าค่ะ

สาเหตุของอาการท้องผูก

ก่อนจะจัดการแก้ไขปัญหาได้ ก็ต้องรู้เสียก่อนว่าสาเหตุของอาการท้องผูกนั้นคืออะไร จะได้จัดการแก้ไขได้ที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งสาเหตุหลักของอาการท้องผูกนั้นเกิดจากสภาพการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันนั่นเอง เรามีโอกาสในการรับประทานอาหารที่มี เส้นใยอาหาร น้อยลง ดื่มน้ำน้อยเกินไป ออกกำลังกายน้อยเกินไป กินเสร็จแล้วก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารไม่ได้ขยับเคลื่อนตัวไปไหน หรือแม้แต่มีเวลาน้อยเกินไปในการขับถ่าย เรียกว่าจะทำอะไรก็ต้องรีบร้อนไปเสียทั้งหมด นอกจากนั้นก็ยังมีสาเหตุที่เกี่ยวกับปัญหาทางด้านอารมณ์และกายภาพอีกที่ช่วยกันทำให้เกิดอาการท้องผูก ความเจ็บป่วยผิดปกติบางอย่างก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หรือปัญหาใหญ่เช่น เบาหวาน มะเร็งลำไส้ โรคพาร์กินสัน ต่อมทัยรอยด์ทำงานต่ำเกินไป เป็นต้น

อาการท้องผูกกับอายุ

ลักษณะนิสัยในการขับถ่ายดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสภาพแวดล้อมของคนคนหนึ่ง เด็กๆ ที่ได้รับนมจากขวดจะมีแนวโน้มที่จะมีอุจจาระที่แข็งกว่าเด็กที่ได้รับประทานนมแม่ เด็กบางคนอาจจะเริ่มมีอาการท้องผูกเมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน เพียงเพราะเกิดความอายที่จะขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายระหว่างการเรียน เด็กๆ ในวัยเริ่มหัดเดินอาจจะเริ่มมีอาการท้องผูกเมื่อเริ่มถูกหัดให้ใช้ห้องน้ำเพื่อการขับถ่าย เพียงเนื่องมาจากความกลัวหรือไม่อยากให้ห้องน้ำ รวมทั้งอาจจะเริ่มท้องผูกเพราะไม่อยากขับถ่ายเนื่องจากเกิดอาการเจ็บระหว่างการขับถ่ายก็ได้ ในผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจจะเริ่มมีอาการท้องผูกเพราะไม่ค่อยได้ขยับตัวไปไหน แต่นั่งอยู่กับโต๊ะทั้งวันก็ได้

นอกจากนั้นยาบางอย่างก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ รวมทั้งยาแก้ปวดที่อาจมีส่วนผสมของสารเสพติด ยาควคุมความดันบางอย่างก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้บ้างเช่นกัน

การแก้ไขอาการท้องผูก

หลังจากที่ได้ทราบสาเหตุของอาการท้องผูกกันไปแล้ว เราก็จัดการแก้ไขปัญหาที่สาเหตุของมัน สาเหตุส่วนมากก็คือการที่เราเองมีสภาพการใช้ชีวิตที่ผิดปกติไป ซึ่งต้องถูกจัดการให้ถูกต้องดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มี เส้นใยอาหาร เพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็น อาหารเหล่านี้มีมากมายเช่น ผัก ผลไม้ เมล็ดพืช? ธัญพืชต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส้ม แอปเปิ้ล ผักคะน้า กะหล่ำปลี แครอท ผัดโขม มะเขือเทศ และอีกสารพัดผักผลไม้ที่อร่อยให้เลือก
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น รวมทั้งดื่มน้ำอื่นๆ ที่เป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์ นั่นคือต้องหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม เลี่ยงคาแฟอิน และแน่นอนที่สุดคือต้องหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ โดยหันไปดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ที่มีเยื่อผลไม้และเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์กับเราปะปนอยู่ด้วยแทน
  • กีฬาเป็นยาวิเศษก็ยังคงใช้ได้กับการป้องกันท้องผูกเช่นกัน ลองออกกำลังกายเบาๆ ทุกวัน เริ่มจากการเดินหลังจากรับประทานอาหารสัก 15 นาที หรือให้ดีกว่านั้นคือออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬากับเพื่อนๆ เป็นประจำทุกวัน
  • ปรับปรุงสุขลักษณะในการขับถ่าย โดยจัดเวลาให้ตัวเองได้จัดการขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน (หรือแม้แต่วันละสองครั้ง) จนเป็นนิสัย
หากสามารถจัดการแก้ไขได้ครบทั้ง 4 ข้อด้านบนแล้ว อาการท้องผูกก็น่าจะหายไปได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหากยังไม่ได้ผล และอาการท้องผูกรบกวนชีวิตความเป็นอยู่ตามปติแล้วล่ะก็ อาจจะถึงเวลาที่จะต้องปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะให้ยาที่ช่วยจัดการแก้ไขอาการท้องผูกให้หายได้ในเวลารวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ก็ควรจะปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำทั้ง 4 ข้อด้านบน เพื่อไม่ให้ต้องใช้ยาต่อเนื่อง และเพื่อไม่ให้อาการท้องผูกแวะกลับมาเยี่ยมเยือนอีกค่ะ