นอกจากหวีตามปกติที่สาวๆ เราใช้หวีและจัดแต่งทรงผมแล้ว ยังมีอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายกันนั่นก็คือ แปรงสำหรับหวีผม แปรงมีลักษณะเป็นแปรงมากกว่าการเป็นซี่แข็งๆ แบบหวีซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากไปกว่าการจัดแต่งทรงเท่านั้น การแปรงผมจะทำให้หนังศีรษะได้รับการนวดและทำความสะอาดปัดเอาหนังศีรษะที่ตายแล้วให้หลุดออกมา เส้นผมได้รับการทำความสะอาด นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นต่อมไขมันให้ปล่อยน้ำมัน (sebum) ออกมา ซึ่งทำหน้าที่เคลือบป้องกันเส้นผมและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมมีสุขภาพดี ดูสวยมีน้ำหนัก และจัดแต่งทรงได้ง่าย ไม่ทำให้ผมเสีย เรียกง่ายๆ ก็คือ เราดูสวยนั่นเองค่ะจะว่าไปแล้ว ด้วยความเร่งรีบในปัจจุบัน ก็คงแทบไม่มีสาวๆ คนไหนที่ แปรงผมวันละหนึ่งร้อยที กันแล้ว แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไปค่ะ เพราะวิธีการแปรงที่ถูกต้อง และอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นหวีหรือแปรง มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าจำนวนการแปรงหรือหวีผมหรอกค่ะ ดังนั้นความสำคัญหนึ่งก็คือเราควรรู้วิธีเลือกแปรงหวีผมให้ถูกต้อง ซึ่งขึ้นกับว่าสาวๆ มีผมยาวหรือสั้นอย่างไร ต้องการจัดทรงผมเป็นแบบไหน ลองมาดูกันว่าแปรงสำหรับหวีผมนั้นมีกี่แบบ แต่ละแบบใช้ทำอะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อเราจะได้รู้วิธีเลือกแปรงหวีผมที่ถูกต้องกันค่ะ
แปรงแบบโปร่งและมีรูระบาย (Vent Brush)
หลังจากที่สาวๆ เข้าร้านแต่งผม ทำสวยออกมาแล้ว ก็คงไม่ได้มีช่างแต่งผมคู่ใจติดกลับบ้านมาด้วย การจัดแต่งทรงเองด้วยการแปรงผมจึงเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แปรงแบบโปร่งเป็นแปรงที่มีขนาดเล็ก มีซี่ค่อนข้างห่างจากกัน อาจจะทำมาจากพลาสติกหรือเซอรามิก ใช้งานทดแทนหวีธรรมดาได้ สามารถหวีผมที่จัดแต่งทรงไว้ได้หลายแบบและกับผมที่ความยาวต่างๆ กัน นอกจากนั้นยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายเพราะก้านของซี่แปรงไม่ถี่มากนัก รูระบายอากาศทำให้อากาศไหลผ่านแปรงได้ดี ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น สาวๆ อาจจะพ่นสเปรย์บางๆ ลงบนแปรงและหวีเบาๆ เพื่อการจัดทรงเป็นขั้นสุดท้ายก็ได้ด้วย
แปรงแบบแบน (Paddle Brush)
เป็นแปรงแบนขนาดใหญ่ มีซี่กว้างคล้ายแบบ vent brush แต่มีเบาะกันกระแทกที่ตัวแผ่นแปรง แปรงแบบนี้อาจจะมีปุ่มที่ปลายที่ทำจากไม้ไผ่กับขนที่แข็งจะทำให้สาวๆ สามารถแปรงคลายเส้นผมที่พันยุ่งเหยิงออกจากกันได้ แต่มีข้อแนะนำว่า ถ้าสาวๆ มีผมที่พันกันยุ่งเหยิงมากๆ ให้หวีที่ปลายของเส้นผมให้หายพันกันก่อน แล้วหวีซ้ำโดยค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปที่โคนเส้นผม จะเป็นการป้องกันเส้นผมเสียหายได้ เพราะแปรงชนิดนี้เรียกได้ว่าเหมาะที่สุดสำหรับเส้นผมที่เสียหายหรือเปราะบาง และยังสามารถใช้ได้ดีกับผมเส้นเล็กอีกด้วยนะคะ
แปรงกลมขนาดใหญ่
ถ้าสาวๆ มีผมที่ยาวตรง แบบผมในฝันของสาวๆ อีกตั้งหลายคนแล้วล่ะก็ แปรงกลมขนาดใหญ่แบบนี้เป็นที่เหมาะในการใช้งานเลยทีเดียวค่ะ แปรงชนิดนี้มีขนหลายชนิดทั้งที่ทำจากสารสังเคราะห์ ไปจนถึงของธรรมชาติอย่างขนหมูป่าที่ทำให้ผมของสาวๆ ดูเป็นมันและนุ่มนวล นอกจากนั้นแปรงแบบนี้ยังช่วยกระตุ้นหนังศีรษะได้อีกด้วย ซึ่งถ้าแปรงทำจากเซอรามิก จะช่วยทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น วิธีใช้ก็จรดแปรงที่โคนผมและเป่าด้วยเครื่องเป่าผม จากนั้นหมุนแปรงไปทางปลายผม และทำซ้ำอีกสักสองสามครั้งสำหรับผมแต่ละมัด แปรงแบบนี้ใช้ได้ทั้งกับการทำให้ผมเป็นลอน และในทางตรงกันข้ามก็คือทำให้ผมเหยียดตรงค่ะ
แปรงครึ่งวงกลม
แปรงคึ่งวงกลมที่ทำจากขนหมูป่านั้นเหมาะสำหรับการม้วนผมเฉพาะตรงบริเวณปลายเส้นผมโดยใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการหวี/เป่าผม เรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างหนึ่งก็คือ แปรงที่ทำมาจากขนหมูป่าจะทำให้เส้นผมของสาวๆ เป็นมันเงางามและนุ่มนวล สาวๆ สามารถใช้แปรงครึ่งวงกลมแบบนี้เพื่อม้วนปลายผม อาจจะใช้เครื่องเป่าผมเพื่อทำให้อยู่ตัวมากขึ้นก็ได้
แปรงขนหมูป่า
ขนหมูป่าสามารถช่วยสร้างปริมาตรให้กับเส้นผมได้ ทำให้ผมดูมีน้ำหนักและจัดทรงง่าย ขนหมูป่าค่อนข้างแข็งแต่ไม่เป็นอันตรายกับเส้นผม ไม่ทำร้ายเส้นผมที่เปราะบางและไม่สร้างไฟฟ้าสถิตย์มากนัก ขนที่หนาข่วยทำให้การหวีเพื่อคลายเส้นผมที่พันออกจากกันได้ง่ายขึ้น การใช้แปรงแบบนี้เป็นประจำจะทำให้เส้นผมของสาวๆ ดูมีสุขภาพดีขึ้น (แต่ก็ต้องบำรุงด้วยวิธีอื่นด้วยนะคะ) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผมหนาซึ่งมักจะยากในการหวีและจัดแต่งทรง นอกจากนั้นแล้วขนหมูป่าพวกนี้ยังช่วยกระตุ้นและทำความสะอาดหนังศีรษะอีกด้วย
และไม่ว่าคุณสาวๆ จะเลือกแปรงหวีผมแบบไหน (หรือทุกแบบ) ไว้ประจำการที่บ้านก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคืออย่าใช้หวีหรือแปรงที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะหรือเซอรามิกร่วมกับเครื่องเป่าความร้อน เพราะเมื่อโลหะหรือเซอรามิกร้อน มันจะทำให้ผมไหม้แห้งกรอบได้ ให้เลือกใช้แปรงหรือหวีที่ทำจากไม้, ขนหมูป่า แทนค่ะ
