เมื่อพูดถึงเรื่องผิวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงเรากลัวมากก็คือความเหี่ยวย่นและชราภาพของผิวของเรา แต่เคยสังเกตไหมคะว่าบางคนเมื่อมีอายุมากขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ผิวแย่ลงเท่าไร ในขณะที่บางคนอายุมากขึ้นแต่กลับมีสภาพผิวชราแซงอายุไปมากเชียว ความลับเรื่องสภาพผิวกับอายุนั้นมีความสัมพันธ์กันแบบตรงๆ แต่ขึ้นอยู่กับของสองอย่างคือกรรมพันธุ์ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ยาก วิธีที่ดีที่สุดที่จะเข้าใจได้ก็คือลองสังเกตพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ของเราว่าเมื่อท่านอายุมากขึ้นแล้ว ผิวของท่านยังคงสวยอยู่หรือแย่ลง และอีกอย่างก็คือการดูแลผิวว่าเราได้ดูแลดีแค่ไหน การดูแลผิวที่ดีจะทำให้ผิวคงสภาพสวยได้เมื่ออายุมากขึ้น และก็พอจะเอาชนะอายุได้บ้างเหมือนกันนะคะ
โปรตีนสำคัญของผิว
ถ้าเราอยากมีผิวสวยไปนานๆ เราคงจะต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมผิวจึงแก่วัยลง ถึงตรงนี้เราคงต้องทำความรู้จักกับ คอลลาเจน, อีลาสติน, และกรดไฮยาลูรอนิก กันสักหน่อย ซึ่งทั้งสามตัวนี้เป็นโปรตีนที่มีมากเมื่อเรายังมีอายุน้อยอยู่ ซึ่งความเป็นจริงก็คือผิวของเราจะประกอบไปด้วยคอลลาเจนถึงร้อยละ 75 เมื่อเรายังเป็นเด็กหรือวัยรุ่นอยู่ โดยคอลลาเจนเป็นเนื้อเยื่อที่เชื่อมบรรดาหลอดเลือดและกระดูกอ่อนเล็กจิ๋วทั้งหลายเข้าด้วยกัน ซึ่งเมื่อมันแข็งแรงดีก็จะทำให้ผิวมีเนื้อนวล ส่วนอีลาสตินมีหน้าที่ในการทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลองหยิกเนื้อด้านหลังของมือเด็กๆ เบาๆ เทียบกับหลังมือของคนสูงอายุดู จะเห็นความแตกต่างของผิวที่มีอีลาสตินสมบูรณ์ (ในเด็ก) ที่ผิวจะกลับสภาพเข้าที่ทันที ไม่เหมือนกับผิวของผู้สูงอายุ ส่วนกรดไฮยาลูรอนิกก็เป็นส่วนประกอบของผิวที่ทำหน้าที่เก็บกัดความชื้นเอาไว้และช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นด้วย
เมื่อผิวขาดโปรตีนสำคัญเหล่านี้
เป็นธรรมชาติที่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะไม่สามารถสร้างและเก็บโปรตีนที่สำคัญทั้งสามชนิดนี้ไว้ได้อย่างเพียงพอ ผิวจะดูแห้งสาก ทำให้เห็นริ้วรอยเล็กๆ และริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อสูญเสียความชุ่มชื้นไป และผิวจะดูหย่อนยานเมื่อขาดคอลลาเจนและอีลาสติน และแม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมการสูญเสียโปรตีนต่างๆ นี้ได้ดังใจ แต่เราก็สามารถทำให้กระบวนการสูญเสียและมีไม่เพียงพอนี้ช้าลงได้ ซึ่งสาวๆ อาจจะต้องแปลกใจเลยทีเดียวว่ามันไม่ได้ใช้ความอุตสาหะมากมายเกินไปนัก
การปฏิบัติตัว
ยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งเป็นผลดีต่อผิวในอนาคต เริ่มตั้งแต่อายุยี่สิบกลางๆ ถึงปลาย ให้หมั่นดูแลเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่มีความสามารถในการป้องกันแสงแดด (มีค่า SPF ด้วย) เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายของการเสื่อมสภาพและแก่ก่อนวัยของผิวของคนเรา ความร้อนจากแสงอาทิตย์สามารถทำลายอีลาสตินได้อย่างง่ายดาย เราจึงเห็นได้ว่าผู้ที่ต้องทำงานอยู่กลางแจ้งกลางแสงแดด จะมีผิวที่แห้ง หยาบ หนา ได้เร็วกว่าคนที่อยู่ในร่ม สาวๆ หลายคนที่ชอบอาบแดดก็ควรจะต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วยว่ามีโอกาสที่ผิวจะแก่ก่อนวัยได้มากกว่าคนอื่นนะคะ การทำหน้ามุ่ยหรือบิดเบี้ยวไปมาก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริ้วรอยที่ผิวด้วย ดังนั้นถ้าอยากผิวหน้าสวยก็ต้องระวังไม่ทำหน้ายักษ์อารมณ์เสียบ่อยๆ นะคะ นอกจากนี้การลอกผิวก็เป็นวิธีหนึ่งในการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เปิดโอกาสให้เซลล์ใหม่ๆ เติบโตโชว์ความสวยให้กับผิวต่อไป เพียงไม่กี่อย่างที่เล่ามาข้างบนนี้ก็พอจะทำให้ผิวสวยไปได้อีกนานแล้วล่ะค่ะ
นอกจากการปฏิบัติตัวเองด้านบนแล้ว บางคนอาจจะต้องการเสริมสร้างความสวยของผิวขึ้นไปอีก ก็สามารถปรึกษาแพทย์หรือใช้ครีมบำรุงที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนและช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวไว้ ซึ่งครีมเหล่านี้นอกจากจะต้องมีส่วนผสมที่ถูกต้องแล้ว ยังจะต้องมีความเข้มข้นที่พอเหมาะที่จะทำงานได้ดีอีกด้วย การลอกผิวด้วยสารเคมี ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะจัดการกับเซลล์เก่าๆ ที่ตายแล้วได้อย่างเด็ดขาดก็สามารถทำให้ผิวดูดีได้ ถึงแม้จะไม่เป็นการถาวรก็ตามเถิด
อย่าลืมนะคะ เมื่อพูดถึงเรื่องของการป้องกันการแก่ของผิว อย่าลืม
ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น
ลอกผิวเพื่อเปิดโอกาสให้เซลล์ใหม่ๆ เติบโตแทนที่ และ
หลีกเลี่ยงการได้รับแสงอาทิตย์โดยการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด
สามอย่างนี้จะทำให้ผิวสวยๆ รักคุณได้นานยิ่งขึ้นค่ะ
